ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ช็อกตลาดด้วยการปรับนโยบาย Yield Curve Control โดยขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของญี่ปุ่นให้สามารถเคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมที่กรอบการเคลื่อนไหวถูกกำหนดเอาไว้ที่ -0.25% ถึง +0.25% โดยให้เหตุผลว่าการปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความยั่งยืนของมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
ขณะเดียวกัน BOJ ยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.1% พร้อมประกาศจะเพิ่มขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มจาก 7.3 ล้านล้านเยนต่อเดือน เป็น 9 ล้านเยนต่อเดือน
การปรับนโยบายของ BOJ ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นจาก 137.16 เยนต่อดอลลาร์ สู่ระดับ 133.11 เยนต่อดอลลาร์ในทันที ขณะที่บอนด์ยีลด์ระยะ 10 ปีของญี่ปุ่นก็ดีดตัวขึ้นจาก 0.25% เป็น 0.46%
ขณะที่ตลาดหุ้นในเอเชีย-แปซิฟิกต่างตอบสนองในเชิงลบ โดยดัชนี Nikkei 225 ปรับลดลง 2.68% เช่นเดียวกับดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงที่ร่วงลง 1.36% ขณะที่ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ และดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลีย ก็ปรับลดลง 0.92% และ 1.5% ตามลำดับ
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่า BOJ จะไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน โดยการเปลี่ยนแปลงน่าจะเกิดขึ้นหลังจาก ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการคนปัจจุบันของ BOJ ลงจากตำแหน่งในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเสียก่อน การตัดสินใจปรับนโยบายของ BOJ ในครั้งนี้จึงสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดเป็นอย่างมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขคำตอบ…ทำไม หุ้นเวียดนาม ดิ่งเกือบจะหนักสุดของโลก ล้างภาพดาวรุ่งแห่งเอเชีย
- จับตา! หุ้นฮ่องกง ดีดกลับจริงหรือแค่ชั่วคราว หลังผู้นำจีนส่งสัญญาณหนุนตลาดหุ้นอีกครั้ง
- ส่อง 9 ตลาดหุ้นเอเชีย ‘อินโดนีเซีย’ แชมป์เงินไหลเข้ามากสุด และเป็นตลาดหนึ่งเดียวที่ยืนบวก
อ้างอิง: