อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประเมินว่า BOJ จะเดินหน้าเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลแบบไม่อั้น เพื่อรักษาดอกเบี้ยระยะยาวให้อยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 0.25% ของ BOJ ตามนโยบาย Yield Curve Control หรือ YCC ต่อไปอีกหลายไตรมาส เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อยั่งยืนที่ 2%
“มีความเป็นไปได้สูงที่ BOJ จะเดินหน้าทำนโยบาย YCC ต่อเนื่องไปตลอดทั้งปีนี้หรืออาจยาวนานกว่านั้น” Kazuo Momma หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Mizuho Research Institute ซึ่งเคยรับผิดชอบนโยบายการเงินให้กับ BOJ ระบุ
ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงกว่าระดับ 2% รวมถึงเงินเยนที่อ่อนค่าสูงสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ทำให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า BOJ อาจปรับนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายให้เข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น อย่างไรก็ดี Momma ยังเชื่อว่าโอกาสที่ BOJ จะปรับทิศทางนโยบายการเงินในเวลานี้ยังมีน้อยมาก เนื่องจากเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นที่หักราคาอาหารและพลังงานออกแล้ว ยังปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายของ BOJ
“เงินเฟ้อญี่ปุ่นจะเพิ่มสู่ระดับ 3% แบบยั่งยืนได้ เราจะต้องเห็นการปรับขึ้นค่าจ้างที่ระดับ 3% อย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันค่าแรงของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% โดยครั้งสุดท้ายที่ค่าแรงญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้น 3% เกิดขึ้นในปี 1991 หรือมากกว่า 30 ปีมาแล้ว” Momma กล่าว
Momma กล่าวว่า คงเป็นเรื่องยากที่จะคาดหวังให้สิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นมา 30 ปีเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยเขามองว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ของ BOJ เป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ และเชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยยังไม่ใช่ทางเลือกที่ BOJ สามารถทำได้ในขณะนี้
แม้ว่าอัตราค่าจ้างของญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจะปรับตัวขึ้น 1.5% แต่เมื่อนำมาหักลบกับเงินเฟ้อแล้ว อัตราค่าจ้างที่แท้จริงของญี่ปุ่นยังปรับตัวลดลง 1.6%
อ้างอิง: