ธนาคารกลางแคนาดาเล็งเลิกขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงเกินไป หลังตลาดพันธบัตรรัฐบาลส่งสัญญาณชัดว่าแคนาดาอาจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและอัตราเงินเฟ้ออาจลดลงในอนาคตข้างหน้า
ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) กล่าวว่า เศรษฐกิจจำเป็นต้องชะลอตัวลงจากระดับร้อนจัด (Overheated) เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ แต่หากธนาคารกลางใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวเกินไป อาจทำให้แคนาดาประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยลึกกว่าที่คาดไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เศรษฐกิจโลก กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่มี 7 ปัจจัย ที่รอบนี้แตกต่างจากวิกฤตการเงินปี 2008
- เปิด 5 สัญญาณอันตรายเศรษฐกิจ บ่งชี้โลกเสี่ยงเผชิญภาวะถดถอย
- นักเศรษฐศาสตร์ฟันธง เงินเฟ้อ ทั่วโลกผ่านจุดพีค แต่จะไม่กลับไปต่ำเท่ากับช่วงก่อนโควิด
คำเตือนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) อายุ 10 ปีของแคนาดา ร่วงลงเกือบ 100 Basis Points (1%) และต่ำกว่า Bond Yield อายุ 2 ปี ซึ่งนับเป็นการกลับด้าน (Inversion) ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 และลึกกว่าการผกผันของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
โดยนักวิเคราะห์บางคนมองว่า การผกผันของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นตัวทำนายภาวะถดถอย
นอกจากนี้เศรษฐกิจของแคนาดายังมีแนวโน้มอ่อนไหวต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นพิเศษ เนื่องจากชาวแคนาดาได้กู้เงินจำนวนมากในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด โดยเฉพาะการกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
คาร์ล ชาร์มอตตา (Karl Schamotta) หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดจาก Corpay กล่าวว่า ตอนนี้ตลาดคิดว่าเศรษฐกิจแคนาดากำลังจะได้รับผลกระทบ 3 ด้าน เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศทรุดตัวลง อุปสงค์จากสหรัฐฯ อ่อนตัวลง และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกลดลง
เจ้าหน้าที่ BoC ได้เปิดประตูเพื่อชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.25% ในการประชุมที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพุธนี้ (7 ธันวาคม) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากการปรับขึ้นขนาดใหญ่หลายครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายไปสู่ระดับ 3.75% สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008
อ้างอิง: