วันนี้ (1 ตุลาคม) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เริ่มปรับขึ้นอัตราค่าธรรมเนียมการเก็บและกำจัดมูลฝอยใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการ สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมมือลดและคัดแยกมูลฝอยที่แหล่งกำเนิด
การปรับปรุงข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครว่าด้วยค่าธรรมเนียมฯ ครั้งนี้ ผ่านความเห็นชอบจากสภากรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567
สำหรับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมอัตราใหม่ตามข้อบัญญัติฯ ฉบับใหม่ ได้แบ่งกลุ่มผู้ใช้บริการออกเป็น 3 กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่ 1 ซึ่งเป็น บ้านพักอาศัยทั่วไปที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน (หรือไม่เกิน 4 กิโลกรัม) หากไม่คัดแยกขยะ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรวม 60 บาทต่อเดือน (ค่าเก็บและขน 30 บาท ค่ากำจัด 30 บาท)
แต่หากครัวเรือนเหล่านี้ คัดแยกขยะและลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์ที่ กทม. กำหนด จะได้รับสิทธิ์จ่ายค่าธรรมเนียมลดลงเหลือเพียง 20 บาทต่อเดือน (ค่าเก็บและขน 10 บาท ค่ากำจัด 10 บาท)
สำหรับกลุ่มผู้ผลิตขยะขนาดกลางและขนาดใหญ่ จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูงขึ้นตามปริมาณขยะที่เกิน 20 ลิตรต่อวันขึ้นไป โดย กลุ่มที่ 2 (ขยะเกิน 20 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน) จะจ่าย 120 บาทต่อ 20 ลิตร (ค่าเก็บและขน 60 บาท ค่ากำจัด 60 บาท)
และ กลุ่มที่ 3 (ขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวันขึ้นไป) จะจ่าย 8,000 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (ค่าเก็บและขน 3,250 บาท ค่ากำจัด 4,750 บาท) ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มที่ 2 และ 3 การคัดแยกและนำขยะไปใช้ประโยชน์ก็จะส่งผลให้ปริมาณขยะที่ต้องทิ้งให้ กทม. กำจัดลดลง และค่าธรรมเนียมก็จะลดลงตามไปด้วย
ปัญหาขยะล้นเมืองถือเป็นปัญหาเร่งด่วน เนื่องจากปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดสูงถึงประมาณ 9,000-10,000 ตันต่อวัน ซึ่งเป็นภาระต่องบประมาณและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก แม้จะมีการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ ณ แหล่งกำเนิดอยู่แล้วประมาณ 4,000 ตันต่อวันก็ตาม
กทม. จึงได้กำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่มุ่งเน้นการจัดการขยะอย่างยั่งยืน โดยเน้น การแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และ การสร้างต้นแบบการแยกขยะ โดยเฉพาะการมุ่งเน้นขยะเปียกจากองค์กรต่าง ๆ เพื่อนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมัก
การออกข้อบัญญัติค่าธรรมเนียมฉบับใหม่นี้ จึงเป็นการ บูรณาการมาตรการทางเศรษฐศาสตร์และกฎหมาย แทนการขอความร่วมมือเพียงอย่างเดียว เพื่อกระตุ้นให้บ้านพักอาศัย หมู่บ้านจัดสรร และอาคารชุดพักอาศัย มีส่วนร่วมในการแยกขยะให้มากขึ้น
กทม. ได้จัดระบบรองรับขยะที่ประชาชนคัดแยกไว้แล้ว เช่น ขยะเศษอาหารให้รวบรวมใส่ถุงสีเขียว, ขยะรีไซเคิลสามารถขาย หรือฝากไปกับรถขยะของ กทม. (ซึ่งทุกคันมีช่องทิ้งรีไซเคิล), และขยะอันตราย (เช่น ถ่านไฟฉาย, หลอดไฟ) ให้รวบรวมใส่ถุงใสและนำไปทิ้งในจุดทิ้งขยะอันตราย (ถังสีส้ม)
ประชาชนที่ต้องการ รักษาสิทธิ์จ่ายค่าธรรมเนียม 20 บาท สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบ้านนี้ไม่เทรวมฯผ่าน 4 ช่องทางหลัก คือ แอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY, เว็บไซต์ BKK WASTE PAY, ติดต่อ ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ ณ สำนักงานเขต ในพื้นที่, หรือติดต่อ เจ้าหน้าที่เก็บค่าธรรมเนียมขยะ (เจ้าหน้าที่ Handheld)
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมยั่งยืน สำนักสิ่งแวดล้อม Hotline โทร. 09 9436 1036, 09 5019 6349, 09 4359 5701, 06 1891 6342 ในเวลาราชการ