สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า หุ้นของ Block ซึ่งอยู่ในธุรกิจกลุ่มฟินเทคที่ แจ็ค ดอร์ซีย์ Jack Dorsey (ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Twitter) ก่อตั้งขึ้น ปรับตัวร่วงแรงเกือบ 15% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 มีนาคม) หลังจากโดน Hindenburg Research บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการแกะรอยหลักฐานและสืบค้นการกระทำผิดทางการเงินและธุรกิจ ออกมาเปิดเผยว่า การควบคุมภายในที่หละหลวมเปิดทางกิจกรรมผิดกฎหมายต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัท และมีความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินการขยายฐานผู้ใช้ที่ทำธุรกรรมของ Cash App ซึ่งเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่สำคัญ
ทั้งนี้ Hindenburg Research อธิบายระบบการกำกับดูแลภายในของ Block ว่าเป็น แนวทาง ‘Wild West’ ในการปฏิบัติตาม โดยรายงานของ Hindenburg Research ที่ใช้เวลาสืบสวนตรวจสอบนาน 2 ปีพบว่า Block ได้ใช้ประโยชน์จากการให้บริการลูกค้าที่ ‘ไม่มีบัญชีธนาคาร’ ซึ่งลูกค้าที่ไม่มีบัญชีธนาคารเหล่านั้นส่วนหนึ่งมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางอาญาหรือผิดกฎหมาย และพบข้อบกพร่องในโปรแกรมการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ Cash App
นอกจากนี้ การตรวจสอบครั้งนี้ ทาง Hindenburg ได้พูดคุยกับอดีตพนักงานหลายคนซึ่งอธิบายว่า แม้จะถูกกล่าวว่าเกิดปัญหาฉ้อฉล โกง หรือหลอกลวงใน Block แต่ความกังวลดังกล่าวของผู้ใช้ก็ถูกเพิกเฉย
ยิ่งไปกว่านั้น รายงานยังพบว่ารายได้มากถึง 35% ของ Cash App มาจากค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยน ซึ่งหมายความว่ารายได้ของ Block ราว 892 ล้านดอลลาร์ควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลทางกฎหมาย แต่ Block ซึ่งเดิมใช้ชื่อ Square กลับหลีกเลี่ยงการกำกับดูแลดังกล่าว โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายที่ยกเว้นให้กับธนาคารขนาดเล็ก
ก่อนหน้านี้ ผู้ให้บริการชำระเงินอย่าง PayPal ก็โดนสอบสวนจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ จากกรณีดังกล่าวมาแล้ว และครั้งนี้ Hindenburg ก็ยื่นจดหมายต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (ก.ล.ต.) ขอให้มีการสอบสวนตรวจสอบ Block จากกรณีที่คล้ายคลึงกันนี้เช่นกัน
โดย Hindenburg สรุปว่า Block ทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดเกี่ยวกับมาตรวัดประสิทธิภาพ และเปิดรับข้อเสนอที่เอาเปรียบผู้อื่น และมีความหละหลวมในการกำกับดูแล รวมถึงกระตุ้นการเติบโตและผลกำไรของบริษัทด้วยการอำนวยความสะดวกในการฉ้อโกงต่อผู้บริโภคและรัฐบาล
ล่าสุด ด้าน Block ได้ออกแถลงการณ์โต้ตอบ Hindenburg เมื่อวันพฤหัสบดี (23 มีนาคม) ว่า บริษัทตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ และตรวจสอบการดำเนินการทางกฎหมายกับ Hindenburg Research สำหรับรายงานที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงและทำให้เข้าใจผิด
Block ยืนยันอีกว่า บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทมหาชนที่มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ และมั่นใจในผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าการรายงานโปรแกรมการปฏิบัติตามข้อกำหนด และการควบคุมของบริษัทอย่างเข้มงวดที่ผ่านมาจะไม่ถูกก่อกวนด้วยกลวิธีการเงินที่ไม่ชอบมาพากลทั้งหลาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ซีอีโอ Twitter ‘แจ็ค ดอร์ซีย์’ ลาออกแล้ว ขณะที่วงการคาดผันตัวรุกหนักตลาดคริปโตฯ ผ่านการพัฒนาบริการของ Square
- 4 แนวทางการเปลี่ยนแปลงที่อาจได้เห็นใน Twitter หลัง ‘อีลอน มัสก์’ เข้าซื้อนกฟ้ามาอยู่ในกรงของตัวเอง
- ปิดมหากาพย์ดีล Twitter! ‘อีลอน มัสก์’ ได้อะไร? จะส่งผลอย่างไรต่อบริษัทและผู้ใช้งาน?
อ้างอิง: