แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางถึงตุรกีแล้วเมื่อวานนี้ (19 กุมภาพันธ์) โดยประกาศว่าสหรัฐฯ จะมอบความช่วยเหลือระยะยาวให้กับตุรกีเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือในการฟื้นฟูประเทศขึ้นมาอีกครั้ง หลังเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงแมกนิจูด 7.8 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยปัจจุบันยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวทั้งในตุรกีและซีเรียพุ่งทะลุ 46,000 ราย และทำให้ประชาชนนับล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัยเนื่องจากบ้านเรือนพังเสียหาย ขณะที่มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจคาดว่าจะสูงถึงหลักพันล้านดอลลาร์
บลิงเคนเดินทางถึงฐานทัพอากาศอินเซอร์ลิกวานนี้ เพื่อเยือนตุรกีอย่างเป็นทางการ พร้อมหารือกับรัฐบาลว่าสหรัฐฯ จะสามารถส่งมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมในจุดใดได้บ้าง หลังจากนั้น เมฟเลิต ชาวูโชลู รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของตุรกี ได้พาบลิงเคนขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อสำรวจสภาพความเสียหายจากแผ่นดินไหวในจังหวัดฮาทาย ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุดของประเทศ
หลังจากที่เหตุแผ่นดินไหวผ่านมาแล้วถึง 2 สัปดาห์เต็ม ตุรกีได้ยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตในพื้นที่ส่วนใหญ่ ยกเว้นเพียง 2 ที่คือเมืองคาห์รามานมารัส และจังหวัดฮาทาย ทั้งนี้ คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะปรับตัวขึ้นอีกในอนาคต ส่วนยอดอาคารที่เสียหายอยู่ที่ 345,000 แห่งในตุรกี อย่างไรก็ตาม ทั้งทางการตุรกีและซีเรียไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขว่ายังมีผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวอีกกี่ราย
“เมื่อคุณเห็นขอบเขตของความเสียหายทั้งหมด ทั้งจำนวนอาคาร อพาร์ตเมนต์ และบ้านที่ถูกทำลาย จะพบว่ามันจะต้องใช้ความพยายามอย่างมหาศาลในการฟื้นฟูเมืองขึ้นมาใหม่ แต่สหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนตุรกีในความพยายามนั้น” บลิงเคนกล่าว
นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว สหรัฐฯ ได้ส่งทีมค้นหาและกู้ภัยไปยังตุรกี พร้อมด้วยเวชภัณฑ์ เครื่องจักรหนัก และเงินทุนเพิ่มเติมอีก 85 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งครอบคลุมถึงซีเรียด้วย และในอนาคต บลิงเคนกล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีความตั้งใจที่จะอนุมัติเงินอีก 50 ล้านดอลลาร์ในกองทุนช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและการย้ายถิ่นฐานฉุกเฉิน (ERMA) เพื่อตอบสนองต่อเหตุแผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรีย รวมถึงอีกเงินทุนอีก 50 ล้านดอลลาร์ในด้านความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ส่งผลให้ยอดรวมความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 185 ล้านดอลลาร์
ภาพ: Cem Ozdel / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: