เลิศ แซ่บ ซ่ากว่าเดิม เมื่อ Bling Empire ย้ายเมืองสู่นิวยอร์ก

หลังจากที่ Bling Empire ซีซันแรกสร้างความฮือฮาเมื่อ 2 ปีก่อน และกลับมาในซีซันที่ 2-3 เมื่อปีที่แล้ว มาถึงปีนี้ Bling Empire ก็ย้ายเมืองให้ผู้ชมได้สัมผัสชีวิตหรูเลิศในมหานครนิวยอร์ก ต้องบอกว่าเป็นทางออกที่ช่วยชุบเรียลิตี้ชีวิตเศรษฐีเรื่องนี้ดูมีชีวิตชีวาและเพิ่มดีกรีดราม่าแซ่บๆ ได้อย่างดี

ว่ากันตามตรงในซีซันแรก Bling Empire สร้างความแปลกใหม่ด้วยไลฟ์สไตล์เหนือมนุษย์ของมหาเศรษฐีเอเชีย สอดแทรกการผสมผสานวัฒนธรรมทั้งตะวันออกและตะวันตก แต่พอถึงซีซันที่ 2-3 แม้จะเพิ่มตัวละครใหม่ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่วนเวียนอยู่กับเรื่อง ‘หาทำ’ เข้าไปล้ำเส้นเรื่องส่วนตัวของเพื่อนๆ ในก๊วนจนออกมาน่าเบื่อ พอมาถึงภาคแยกในปีนี้ ก็ถึงคราวที่เรื่องราวจะตามติดชีวิตของ Dorothy Wang ตัวละครจากซีซันที่แล้วที่ย้ายไปสู่สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ในนิวยอร์ก

ความแตกต่างที่รู้สึกได้คือ Bling Empire: New York แฟชั่นกว่า เป็นงานเป็นการกว่า เปราะบางกว่า และมีความเป็นมนุษย์มนามากกว่าเวอร์ชันแอลเอ ด้วยตัวละครก๊วนมหาเศรษฐีที่มีงานมีการทำ ทำให้กิจกรรมต่างๆ ดูมีสีสันมากกว่าการเซ็ตอัพให้เกิดเรื่องดราม่าแบบ 3 ซีซันก่อน และการแคสต์ตัวละครจากหลากหลายที่มาก็ทำให้ซีซันนี้มีความน่าสนใจขึ้นมากทีเดียว เริ่มตั้งแต่ Tina Leung อินฟลูเอ็นเซอร์ที่สายแฟรู้จักกันดี, Stephen Hung และ Deborah Hung สามีภรรยามหาเศรษฐีจีน-เม็กซิโก, Richard Chang และ Vika Abbyaeva คู่รักนักธุรกิจไฟแรง, Blake Abbie บรรณาธิการนิตยสารแฟชั่น, Lynn Ban และ Jett Kain ดีไซเนอร์จิวเวลรีชื่อดัง และยังมีลูกสาวนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย น้ำ-กัญจิกา ลักษณกาญจน์ เข้ามาอยู่ในซีซันนี้ด้วย

อาณาจักรต้องมีราชินีเพียงหนึ่งเดียวฉันใด Bling Empire: New York ก็ต้องมีราชินีเพียงคนเดียวฉันนั้น ดังนั้นเมื่อ Dorothy ย้ายมานิวยอร์กก็ยังไม่ทิ้งความเป็นราชินีของตัวเอง แต่ดันมาเจอเจ้าถิ่นเก่าอย่าง Stephen และ Deborah จึงจุดชนวนดราม่าพริก 10 เม็ดขึ้นมาทันที ซึ่งคนดูก็จะได้เห็นการแก้เผ็ดแสบๆ คันๆ ของมหาเศรษฐี ที่คนธรรมดาอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่สำหรับคนอีโก้จัด การเรียกชื่อผิด หรือทำให้อีกฝ่ายดูไร้ตัวตน นั่นถือว่าหยามกันเห็นๆ (เหมือนที่ Mariah Carey และ Jennifer Lopez พูดประโยคที่ว่า “I don’t know her.” สวนกันไปมานั่นแล)

Bling Empire: New York ยังคงเสิร์ฟไลฟ์สไตล์ความรวยเวอร์ที่มีคนเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ได้สัมผัส ทั้งการจัดแฟชั่นกูตูร์บนเครื่องบินส่วนตัว การซื้อเพชรเม็ดใหญ่เท่าหัวเด็กได้ง่ายๆ เหมือนซื้อลูกอม หรือการเลือกซื้อชุดแบบเดียวกันครบทุกสีโดยไม่ต้องดูราคา แต่เหนือไปกว่านั้นคือการก้าวเข้าสู่ความเปราะบางภายใต้ภาพลักษณ์สุดหรู ทั้งความเหนื่อยหน่าย ความโดดเดี่ยว การออกเดต ความเครียดเกี่ยวกับสิ่งที่ครอบครัวคาดหวัง

สำหรับตัวละครที่น่าสนใจที่สุดและเปราะบางที่สุดก็น่าจะเป็น Tina Leung ถ้าใครได้ติดตาม Instagram ของเธอก็จะได้เห็นชีวิตสุดหรู ตระเวนไปนั่งฟรอนต์โรว์ในงานแฟชั่นวีคต่างๆ แต่เบื้องหลังมันมีทั้งความเครียด ความวุ่นวาย ยิ่งเมื่อทำแบบเดิมๆ มาเป็น 10 ปีโดยที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ถึงคราวที่ต้องนั่งถามตัวเองแล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่ สิ่งเหล่านี้ช่วยสะท้อนชีวิตคนวัยทำงานได้เป็นอย่างดี ทำให้ Bling Empire: New York เชื่อมโยงกับชีวิตคนดูได้ดีมากกว่าซีซันที่ผ่านมา

ในขณะที่ น้ำ กัญจิกา ซึ่งในโชว์ใช้ชื่อว่า น้ำ ลักษณ์ ก็กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต เมื่อกำลังจะสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และครอบครัวยื่นคำขาดให้กลับบ้าน ไม่อย่างนั้นก็ต้องยืนด้วยล้ำแข้งตัวเอง แปลว่าชีวิตคุณหนูหรูเลิศของเธอกำลังจะจบลง ส่วน Blake ที่ครองตำแหน่ง Yes Man ในหมู่เพื่อนๆ ก็กำลังวิตกกังวลกับความคาดหวังของครอบครัว เมื่อความเป็นเควียร์ของเขาอาจจะไม่ได้จบลงด้วยการแต่งงานแบบคนทั่วไป

ความหลากหลายของซีซันนี้ยังช่วยตีแผ่ปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างวัย อย่างในกรณีของของ Jett กับ Blake ที่มาจากต่างเจเนอเรชันและนิยามคำว่าเพศแตกต่างกัน รวมทั้งการเข้าไปศึกษาความสัมพันธ์ระยะยาวของสามีภรรยา Lynn และ Jett ที่แม้มองภายนอก Lynn จะเป็นสาวมั่น สนุกกับชีวิต แต่ท้ายที่สุดก็ต้องมีด้านอ่อนนุ่ม เพื่อประคับประคองชีวิตรักกับสามีที่กำลังเผชิญวิกฤตวัยกลางคนด้วยเหมือนกัน

นอกจากความสัมพันธ์ในฐานะคนรัก ในโชว์ยังหยิบประเด็นเรื่องความเป็นเพื่อนที่มีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด เมื่อมีเรื่องชื่อเสียงและผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แสดงออกผ่านนิสัยของ Richard ผู้มักจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนดังจนดูเหมือนจะล้ำเส้นเข้าไปทุกที ซึ่งนิสัยแบบนี้ก็ยากจะตัดสินว่าถูกหรือผิดในฐานะคนหนุ่มในวัยทะเยอทะยาน

สรุปแล้ว Bling Empire: New York ยังคงสนุกสนานกับเรื่องไร้สาระ ไลฟ์สไตล์คนรวย และที่อดไม่ได้คือหน้าตาตัวละครทำให้นึกถึงเซเลบไทยหลายๆ คน ทั้งแอนนา ทีวีพูล, คุณเล็ก ปาร์คนายเลิศ หรือแม้แต่คุณพ่อดม ชวนชื่น ในขณะเดียวกันยังหาสาระได้จากปัญหาของคนต่างเจเนอเรชันได้ค่อนข้างดี

Bling Empire: New York ชมได้ทาง Netflix

อ้างอิง:

FYI

ใครเป็นใครใน Bling Empire: New York

Dorothy Wang: เป็นลูกสาวของนักธุรกิจพันล้าน Roger Wang ก่อนจะมาร่วมรายการนี้เธอเคยปรากฏตัวในเรียลิตี้ Famously Single และ Rich Kids of Beverly Hills มาก่อน
Tina Leung: เป็นแฟชั่นอินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามมากกว่า 4 แสนคนบน Instagram และเคยมีผลงานใน Harper’s BAZAAR, marie claire, ELLE และนิตยสารเล่มอื่นๆ
Lynn Ban: เป็นนักออกแบบเครื่องประดับ ออกแบบให้กับคนดังอย่าง Rihanna และ Beyonce ด้วยสไตล์ที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร
Blake Abbie: หนุ่มลูกครึ่งจีน-สกอตแลนด์ ผู้นิยามว่าตัวเองเป็นเควียร์ เปิดรับได้ทุกเพศ Blake เริ่มต้นการทำงานจากการเป็นผู้ช่วยถ่ายภาพและผู้ช่วยกองบรรณาธิการ ปัจจุบันเป็นบรรณาธิการใหญ่ของ A Magazine Curated By
Stephen และ Deborah Hung: Stephen เป็นนักธุรกิจผู้ก่อตั้ง SH Capital Group ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การบริการ และอุตสาหกรรมหรูหราอื่นๆ และเป็นรองประธานของ Rio Entertainment Group ซึ่งรับผิดชอบดูแลคาสิโนมาเก๊า ส่วน Deborah คืออดีตนางแบบชาวเม็กซิโก และเป็นเจ้าของโมเดลลิ่งเอเจนซีในเอเชียและยุโรป
Richard Chang: ทำงานที่ Hudson Medical ในตำแหน่ง Chief Growth Officer และเคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนสินค้าที่ Calvin Klein
น้ำ-กัญจิกา ลักษณกาญจน์: เป็นลูกสาวของ นคร ลักษณกาญจน์ อดีตผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ N-PARK และนักธุรกิจชาวไทย เธอเดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก