***ไม่สปอยล์***
“ก่อนเป็นอเวนเจอร์ส ก่อนมีครอบครัวนี้ ฉันผิดมาเยอะกับการเลือกจะเป็นอย่างที่โลกคาดหวัง…หรือเป็นตัวเอง”
ประโยคจากตัวอย่างหนังที่ นาตาชา โรมานอฟฟ์ หรือ สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน ไม่ได้พูดใน Black Widow (มีเฉพาะในเทรลเลอร์ตัวที่ 3) แต่ช่วยอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังเดี่ยวเรื่องแรกของเธอได้เกือบทั้งหมด
ด้วยพาคนดูย้อนกลับไปสำรวจชีวิตของ นาตาชา โรมานอฟฟ์ หลังจบเหตุการณ์ใน Captain America: Civil War (2016) และก่อนเปิดศึกกับธานอสใน Avengers: Infinity War (2018) และ Avengers: Endgame (2019)
รวมทั้งอดีตตั้งแต่วัยเด็กที่ (ดูเหมือนว่าจะ) เคยสดใส, อยู่กับครอบครัวที่ (ดูเหมือนว่าจะ) เคยอบอุ่น, เริ่มเข้าฝึกคอร์ส ‘นักฆ่า’ ในเรดรูม, ปฏิบัติภารกิจมากมาย ก่อนจะกลายเป็นสมาชิกทีมอเวนเจอร์สที่ทุกคนรู้จักในชื่อ Black Widow หรือสายลับ ‘แม่ม่ายดำ’ ผู้มีสายตาสะกดคนทั้งโลก
และถ้าว่ากันตามตรง ข่าวการคลายล็อกดาวน์ให้โรงหนังเปิดให้บริการอีกครั้งก็ไม่ทำให้เราตื่นเต้นได้เท่ากับความรู้สึกที่ว่า นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ไป ‘จ้องตา’ คู่นี้แบบเต็มๆ บนจอภาพยนตร์
โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกที่เปิดเผยให้เห็นภาพที่เราไม่ค่อยได้เห็นมากนักในจักรวาล Marvel เรื่องอื่นๆ คือ ‘ดวงตา’ ของนาตาชา ในฐานะมนุษย์ธรรมดาที่ไม่ต้องแข็งแกร่งตลอดเวลา ถอดชุดสายลับรัดรูปมาเป็นเสื้อยืดธรรมดา ขอบตาคล้ำอ่อนล้าด้วยความเจ็บปวดและสับสน
ระหว่างต่อจิ๊กซอว์ความทรงจำให้คนดูได้รู้ไปพร้อมๆ กันว่า อดีตที่ผ่านมาของเธอเป็นอย่างไร ซึ่งตรงนี้เราเสียดายเล็กน้อย เพราะแอบคาดหวังว่าจะได้เห็นช่วงเวลาการฝึกเป็นนักฆ่าในเรดรูมมากกว่านี้ แต่ก็เข้าใจได้ว่าต้องเทน้ำหนักไปให้การสะสางภารกิจที่ค้างคาในช่วงหลัง
กับอีกความรู้สึกหนึ่งที่ไม่ได้คาดหวัง แต่ได้รับกลับมาแบบเต็มๆ คือดวงตาอีกคู่หนึ่งของ ฟลอเรนซ์ พิวจ์ ที่เราเคยถูกเธอสะกดมาแล้วผ่านพิธีกรรมสุดสยองใน Midsommar (2019) คราวนี้ถอดมงกุฎดอกไม้ มาสวมชุดสายลับรับบท เยเลนา เบโลวา ที่ดึงดูดสายตาเราเข้าไปหาได้ทุกครั้งที่ปรากฏตัว
เยเลนาคือ ‘น้องสาว’ ของนาตาชาที่เติบโตมาด้วยกัน และถูกบังคับให้เข้าคอร์สฝึกให้เป็นนักฆ่าของเรดรูมรุ่นต่อมา และเมื่อหลุดพ้นจาก ‘คำสาป’ ที่มีผลต่อสภาพจิตใจมาได้ เธอก็กลับมาร่วมมือกับพี่สาวเพื่อปลดปล่อยคำสาปให้หญิงสาวที่ถูกบังคับให้เป็น ‘วิโดว์’ ในโครงการทั้งหมด
นอกจากการร่วมมือสืบสวน ต่อสู้ และทำภารกิจ บทบาทสำคัญของเยเลนาคือ การเป็นคนตั้งคำถามเรื่องความหมายของการเป็น ‘ฮีโร’ ที่แสดงผ่านทั้งคำพูดและการล้อเลียนเรื่อง ‘ท่าโพสต์’ ของ Black Widow ที่ถูกนำมาขยี้อยู่บ่อยๆ จนเรายกให้เป็นมุกที่ชอบที่สุดในเรื่อง
เช่นเดียวกับอีก 2 ตัวละครอย่าง เรดการ์เดียน (เดวิด ฮาร์เบอร์) และ เมลินา (ราเชล ไวซ์) ที่จะมาช่วยกันตั้งคำถาม ชวนคิดเรื่อง ‘ความจริง’ ของสิ่งที่เรียกว่าครอบครัว, ‘สิทธิ์’ ในการเลือกใช้ชีวิต ให้ทั้งพี่สาวและคนดูทั้งหมดไปพร้อมๆ กันได้อย่างน่าสนใจ
โดยเฉพาะถ้าเทียบกับฝั่งตัวร้ายที่มีแอร์ไทม์ให้เฉลยถึงเบื้องหลังแบบลึกๆ ไปจนถึงฉากแอ็กชันที่มีเซอร์วิสให้ดูกันแบบพอประมาณ แต่ก็ยังไม่ถือว่าสาแก่ใจถ้าเทียบกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ในจักรวาล Marvel เรื่องอื่นๆ (แต่ยังยืนยันว่าทุกๆ ฉากต่อสู้ของนาตาชาและเบโลนาคือความคุ้มค่าของ Black Widow จริงๆ)
ทำให้เรารู้สึกว่าสาระสำคัญจริงๆ ของหนังเรื่องนี้คือ การพาคนดูร่วมกันสำรวจตัวเอง และค้นหาคำตอบเรื่อง ‘ความจริง’ และ ‘สิทธิ์’ ในการใช้ชีวิต ที่แต่ละคนได้รับแตกต่างกันตามประสบการณ์ที่พบเจอมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เช่นเดียวกับสาระสำคัญที่เราจะได้ ‘สบตา’ กับ นาตาชา โรมานอฟฟ์ บนจอภาพยนตร์แบบเต็มๆ เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งต้องยอมรับว่ามีเสน่ห์และทรงพลังมากกว่าการสบตากันบนแพลตฟอร์มอื่นจริงๆ
รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ Black Widow ได้ที่ซ