เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 61 ที่กองบังคับการปราบปราม พ.อ. บุรินทร์ ทองประไพ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. นำตัวนางวรรณภา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา ‘อังยี่ซ่องโจร’ มาส่งมอบให้ตำรวจกองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย
หลังจากเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวนางวรรณภาพร้อมเสื้อยืดโปโลสีดำที่มีแถบป้ายสีขาวแดง ซึ่งมีความหมายเชิงสัญลักษณ์แบ่งแยกการปกครอง ‘สหพันธรัฐไท’ บริเวณหน้าอกจำนวนหนึ่ง ที่บริเวณห้องพักย่านสมุทรปราการ โดยทหารนำไปคุมตัวไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) และไม่อนุญาตให้พบทนายความ
ขณะที่ น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมาเป็นฝ่ายกฎหมายให้กับนางวรรณภา เปิดเผยว่า ขั้นตอนในวันนี้เป็นการแจ้งจับและทำบันทึกจับกุม ก่อนที่จะควบคุมตัวไว้ในห้องขังที่กองปราบปราม ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) ทางพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมทั้งควบคุมตัวไปส่งศาลอาญา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนรายละเอียดทางคดี พนักงานสอบสวนปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชน
ส่วนนางวรรณภา หลังทำขั้นตอนการบันทึกจับกุมเสร็จแล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็นำตัวเข้าไปในห้องขังของกองปราบปราม โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ เช่นกัน
อังคณา นีละไพจิตร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มสหพันธรัฐไท ว่าเรื่องดังกล่าวมาจากแหล่งเดียว คือที่ฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งมีเครือข่ายอยู่ในประเทศไทย โดยมีการติดต่อขายเสื้อและธงของ นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ หรือลุงสนามหลวง และมีความเชื่อมโยงกับพวกที่หนีคดีอาญามาตรา 112 และ 116 ซึ่งสามารถจับกุมได้ 3-4 คนแล้ว หากสาวไปถึงใครก็จะจับกุมทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นกบฏ
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ไม่มีน้ำหนัก แต่พยายามที่จะให้คนคิดแบ่งแยกการปกครอง ไม่ให้มีสถาบัน ซึ่งใช้ไม่ได้ โดยตนได้ติดตามเรื่องเหล่านี้มานานแล้ว