Holidu เสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของอังกฤษด้านสถานที่พักร้อนยอดนิยมเปิดเผยผลการจัดอันดับ Workation Index ประจำปี 2021 ซึ่งเป็นการสำรวจและตัดสินเมือง 150 แห่งทั่วโลกที่เหมาะสมต่อการพักร้อนและทำงาน หรือ Work และ Vacation ที่รวมเรียกว่า Workation ประจำปีนี้ โดยยกให้กรุงเทพมหานครรั้งอันดับหนึ่งของเมืองที่เหมาะสมสำหรับ Workation มากที่สุดในโลก และมีจังหวัดภูเก็ตรั้งอยู่ในอันดับที่ 10
รายงานระบุว่า การตัดสินใจพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ไล่เรียงตั้งแต่ค่าเช่าที่อยู่อาศัยรายเดือน ค่ากินเที่ยวดื่มหลังเลิกงาน ความเร็วของอินเทอร์เน็ต WiFi สถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมท่องเที่ยว พร้อมข้อมูลความเห็นจากบรรดาเว็บไซต์ท่องเที่ยวต่างๆ อย่าง BestCities.org และ Tripadvisor.co.uk.
ทั้งนี้ ในปีนี้กรุงเทพฯ ประเทศไทยได้ที่ 1 ตามด้วยกรุงนิวเดลีของอินเดีย ลิสบอนของโปรตุเกส บาร์เซโลนาของสเปน ขณะที่อันดับ 5 มีสองเมืองร่วมกันคือ บัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา และบูดาเปสต์ของฮังการี
สำหรับอันดับที่ 7 คือเมืองมุมไบ อินเดีย ตามด้วย อิสตันบูลของตุรกี บูคาเรสต์ของโรมาเนีย และปิดท้ายอันดับที่ 10 ด้วยจังหวัดภูเก็ตของไทย โดยปีนี้ไม่มีเมืองไหนในสหรัฐฯ ได้รับอันดับท็อป 20 เลย มีเพียงลอสแอนเจลิสเท่านั้นที่รั้งตำแหน่งสูงที่สุดที่อันดับที่ 30 ของการจัดอันดับในปีนี้
ซาราห์ ซิดเดิล (Sarah Siddle) ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดของ Holidu กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิดได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงานของคนส่วนใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ไม่ต้องเข้าทำงานที่ออฟฟิศในวันทำการ และสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ทำให้เกิดกระแส Workation ซึ่งเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการใช้วันหยุดพิเศษเพิ่มเติมในจุดหมายปลายทางที่ต้องการสำรวจ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเบี้ยเลี้ยงและวันหยุดประจำปี
ขณะเดียวกันซิดเดิลกล่าวว่า อีกหนึ่งข้อสังเกตสำคัญสำหรับเมืองที่ได้รับการโหวตในอันดับต้นๆ ก็คือค่าครองชีพที่ไม่แพงมาก ไม่ว่าจะเป็น ราคาที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม บวกกับเมืองเหล่านี้เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์น่าทึ่งมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ดูและทำ
นอกจากนี้ ทาง Holidu ยังได้คาดการณ์แนวโน้มปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Digital Nomad ซึ่งหมายความถึง ความสามารถในการทำงานที่ไหนก็ได้บนโลก ซึ่งจะได้รับความนิยมในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้ เนื่องจากบริษัทชั้นนำหลายแห่งทั่วโลกต่างเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานให้กับพนักงานมากขึ้น ทำให้พนักงานสามารถพักร้อนในต่างประเทศได้นานขึ้น
แนวโน้มดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานของแอปฯ วางแผนจัดการการท่องเที่ยว TripIt ที่พบว่าจำนวนยอดจองที่พักของผู้ใช้บริการในปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2019 ถึง 10 เท่า โดยส่วนใหญ่เฉลี่ยขั้นต่ำอยู่ที่ 13-14 วัน ขณะที่ผู้ที่จองเที่ยวบินเดินทางเพื่อไปทำงาน หรือบิซิเนสทริปทั่วโลกราว 89% ยอมรับว่า ได้บวกเวลาพักร้อนของตนเพิ่มเข้าไปด้วย หลังเล็งเห็นว่าสามารถจัดการงานจากที่ห่างไกลได้
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยด้านภาษี กฎหมาย และความต่างของเวลา แต่ซิดเดิลกล่าวว่า เงื่อนไขเหล่านี้สามารถวางแผนและจัดการได้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ Workation มีเงื่อนไขเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการ
อ้างอิง:
เตรียมพบกับฟอรัมที่ผู้บริหาร ‘ต้องดู’ ก่อนวางแผนกลยุทธ์ปีหน้า! The Secret Sauce Strategy Forum คัมภีร์กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตปี 2022
📌 เฟรมเวิร์กกลยุทธ์ใช้ได้จริง
📌 ฉากทัศน์เศรษฐกิจไทย–โลก
📌 เทรนด์ผู้บริโภค–การตลาด
📌 เคสจริงจากผู้บริหาร
ซื้อบัตรได้แล้วที่ www.zipeventapp.com/e/the-secret-sauce
#TheSecretSauceStrategyForum2022