อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI กล่าวว่า 9 เดือนแรกปี 2563 BKI มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 17,132.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,362.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.4% ส่วนหนึ่งเพราะอัตราค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ของระบบลดลงเกือบ 4% โดยลดลงจากหลายหมวด เช่น ประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ จากช่วงโควิด-19 ที่ทำให้การเรียกร้องสินไหมลดลง
ทั้งนี้คาดว่าปี 2563 นี้ยังคงเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทที่ 2.28 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และตั้งเป้าหมายปี 2564 จะมีเบี้ยรับรวมเติบโต 5% ภายใต้สมมติฐานการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ที่ 3.5-4.5% โดยปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจไทยที่มีปัจจัยทางการเมืองซึ่งกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน
อย่างไรก็ตาม ปีหน้ายังต้องติดตามกรณีการเจรจาขอคืนเบี้ยประกันภัยที่ชำระแล้วจากธุรกิจสายการบินที่ยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยคาดว่าปี 2564 นี้ ในตลาดเบี้ยธุรกิจการบินทั่วโลก ในไทย และส่วนบริษัทจะลดลงราว 15-20% จากการคืนเบี้ยที่ชำระแล้วให้สายการบินที่ยังไม่ฟื้นตัว ซึ่ง BKI ได้รับการชำระเบี้ยธุรกิจการบินของสายการบินไทยในปี 2563 แล้ว และอาจมีการคืนเบี้ยในปีหน้า
อานนท์ วังวสุ ที่ปรึกษา BKI และนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า เบี้ยประกันวินาศภัยในภาพรวมทั้งตลาดปี 2563 ไม่ติดลบอย่างที่คิดเพราะมีเบี้ยประกันโควิด-19 และการทำประกันนาข้าวที่เพิ่มขึ้นกว่า 5 พันล้านบาท จึงพยุงให้ทั้งอุตสาหกรรมเบี้ยยังขยายตัว ขณะที่กำไรของบริษัทประกันเพิ่มขึ้นจากอัตราค่าสินไหมทดแทนที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะประกันรถยนต์ที่มีสัดส่วนหลักของตลาดในช่วงโควิด-19 รุนแรงลดลงสู่ระดับ 30%
แต่ปี 2564 ถือว่ายังมีความท้าทายมาก โดยปัจจัยบวกที่จะทำให้เบี้ยประกันขยายตัวต้องมาจากประกันภัยที่เกี่ยวเนื่องกับโควิด-19 เช่น การรับประกันนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงประกันโควิด-19 ในลูกค้ารายย่อยจะมีการต่ออายุมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของภาครัฐในการสนับสนุนให้ประชาชนซื้อประกันสุขภาพเพื่อดูแลตัวเอง (จากกรณีการฉ้อโกงบัตร 30 บาท นำไปสู่การงดสถานพยาบาลเข้าร่วมโครงการหลายแห่ง)
ชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ BKI กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะฟื้นตัว ส่วนหนึ่งเพราะสถานการณ์โลกยังไม่ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ต้องจับตามองการพัฒนาวัคซีนว่าจะสำเร็จและใช้ได้จริงเมื่อไร แต่ไม่ว่าอย่างไร ไทยต้องมองเรื่องการเปิดประเทศเพื่อให้ภาคธุรกิจ (ท่องเที่ยว โรงแรม) สามารถฟื้นตัวได้โดยเร็ว ซึ่งเมื่อมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ก็ต้องเริ่มทำความเข้าใจว่าอาจมีผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ในส่วนของตลาดหุ้นไทยมองว่า หากเศรษฐกิจไทยไม่ฟื้นตัว มีโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) จะร่วงลงจากระดับปัจจุบัน ขณะที่ปีนี้หลายบริษัทยังจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ ก็มาจากกำไรสะสมในปีก่อนๆ ดังนั้นปีหน้าต้องติดตามว่าการจ่ายปันผลจะเป็นอย่างไร เพราะกำไรของปีนี้ก็หดตัวไปมากจากสถานการณ์โควิด-19
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล