สถานการณ์ราคา Bitcoin เมื่อวานนี้ (7 กันยายน) ทำเอาบรรดานักลงทุนใจหายใจคว่ำไปหลายตลบ เนื่องจากอยู่ในสภาวะผันผวนอย่างหนัก โดยในช่วงเช้าของวานนี้ราคาปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับ 52,000 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะร่วงลงอย่างหนักแตะระดับ 43,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยมาเคลื่อนไหวที่ราว 46,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ราคา Bitcoin ที่ปรับตัวร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้เกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ประกาศรับรอง Bitcoin ให้เป็นสกุลเงินของประเทศอย่างเป็นทางการเช่นเดียวกันกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล ระบุว่า นอกจากจะช่วยลดค่าธรรมเนียมในการส่งเงินกลับประเทศแล้ว Bitcoin ยังเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังไม่มีบัญชีธนาคารเข้าถึงบริการทางการเงินได้ด้วย
ผู้นำเอลซัลวาดอร์ประกาศอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ซื้อ Bitcoin ไว้ในครอบครองรวมแล้วทั้งหมด 550 Bitcoin โดยประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์สามารถเริ่มใช้ Bitcoin ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Chivo Wallet ซึ่งในช่วงโปรโมตรัฐบาลจะแจก Bitcoin มูลค่า 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 วอลเล็ต เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นให้ประชาชนใช้งาน
กระนั้นประธานาธิบดีบูเคเลก็ยอมรับว่า ความสำเร็จไม่อาจเกิดขึ้นได้ในเวลาเพียงแค่วันสองวัน หรือเดือนสองเดือน แต่อย่างน้อยความสำเร็จก็ไม่สามารถเริ่มต้นได้หากว่าไม่มีการฝ่าฝืนแนวคิดเดิมๆ
การเดินหน้าตามแผนการณ์ที่ประกาศไว้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่คัดค้าน โดยฝ่ายที่สนับสนุนมองว่าจะทำให้ประชาชนมีทางเลือกและเข้าถึงบริการทางการเงิน ขณะที่ฝ่ายที่คัดค้านเกรงว่า Bitcoin จะกลายเป็นเครื่องมือที่บางกลุ่มใช้ในการฟอกเงิน
ด้านผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่ง รวมถึง เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก Oanda มองว่า การที่ราคา Bitcoin พลิกร่วงอย่างหนัก เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ‘Buy the rumor, sell the news’ หรือ ‘ข่าวดีให้ขาย ข่าวร้ายให้ซื้อ’ ของนักลงทุน ดังนั้นราคา Bitcoin ในห้วงเวลานี้น่าจะผันผวนต่อไปอีกสักระยะ ก่อนฟื้นขึ้นมาแตะระดับ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง
ขณะที่ วิลล์ คง (Will Cong) ศาสตราจารย์ด้านการเงินแห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนล แสดงความเห็นว่า ปฏิกิริยาของตลาดแสดงให้เห็นว่ายังไม่เชื่อมั่นในระบบการเงินของเอลซัลวาดอร์ เพราะการรับรองสกุลเงินดิจิทัลให้เป็นสกุลเงินหลัก ประเทศหนึ่งๆ จำเป็นต้องมีระบบการเงินที่มีเสถียรภาพมั่นคง รวมถึงมีระบบการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนธนาคารกลางของประเทศนั้นๆ ต้องไม่มีแนวคิดที่จะสร้างและพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลกลาง หรือ CBDC เป็นของตนเอง
แม้จะมีหลายฝ่ายแสดงความวิตกกังวลต่อการเดินหน้ารับรอง Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวกลับจุดประกายให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีของจีนกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากที่ซบเซาไปเพราะการเดินหน้าปราบปรามกวาดล้างของรัฐบาลจีนอย่างจริงจังในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
Global Times รายงานว่า บรรดาเทรดเดอร์ชาวจีน โดยเฉพาะนักขุด Bitcoin และผู้ประกอบการที่ขายเครื่องขุด Bitcoin ต่างรื้อโปรเจกต์ของตนและวางแผนกลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยแหล่งข่าวนิรนามวงในระบุว่า โปรเจกต์ส่วนใหญ่เป็นโปรเจกต์ขนาดเล็ก ใช้พลังงานไม่มาก ดังนั้นจึงไม่ตกเป็นเป้าสายตาของทางการ ซึ่งแหล่งข่าวรายนี้ประเมินว่า โปรเจกต์ขุด Bitcoin ที่หยุดชะงักไปต่างเริ่มกลับมาดำเนินการรับข่าวดีจากเอลซัลวาดอร์มากถึง 50%
อ้างอิง: