สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ราคาหุ้นของกองทุน ProShares Bitcoin Strategy ETF ที่ใช้สัญลักษณ์ ‘BITO’ ซึ่งเป็นกองทุน Bitcoin ETF ตัวแรกที่เปิดตัวเทรดในตลาดเมื่อวานนี้ (19 ตุลาคม) ขยับพุ่งขึ้นกว่า 4.5% มาอยู่ที่ 41.89 ดอลลาร์สหรัฐ โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ติดตามตลาด CME Bitcoin Futures ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายราคา Bitcoin ล่วงหน้า ไม่ใช่ตัวคริปโตฯ เอง
กระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ยังส่งผลให้ราคา Bitcoin เมื่อวันอังคารขยับขึ้นมากกว่า 4% มาอยู่ที่ 64,206.51 ดอลลาร์สหรัฐ เฉียดเข้าใกล้ราคาสูงสุดตลอดกาลที่ Bitcoin เคยทำไว้เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 64,899 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคา Bitcoin ในตลาดฟิวเจอร์สก็ขยับขึ้นราว 4% เช่นกัน
วิลล์ เฮอร์ชีย์ (Will Hershey) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Roundhill Investments ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ว่า การเปิดตัว Bitcoin ETF ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นการเติบโตของอุตสาหกรรม ETF ในสหรัฐฯ โดยปริมาณ (Volume) การเทรดของ BITO วันแรกมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่ากองทุน ETF ยอดนิยมอย่าง BUZZ และ ARKX ที่เคยทำไว้ในการเปิดตัววันแรกเสียอีก
ทั้งนี้ ProShares ถือเป็นผู้ให้บริการ ETF ที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ตามมูลค่าสินทรัพย์
ด้านนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งระบุว่า Bitcoin ETF เป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ตลาดคริปโตฯ ได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงทำให้นักลงทุนหน้าใหม่ได้สัมผัสผลประโยชน์ของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย กระนั้น Bitcoin ETF ก็ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดที่บรรดาฝ่ายที่สนับสนุนคริปโตฯ ต้องการ แต่เป็นการเปิดทางให้สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินที่จับต้องได้ในอนาคต
วันเดียวกัน ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเล แห่งเอลซัลวาดอร์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า Volaris สายการบินต้นทุนต่ำของเม็กซิโกจะเปิดให้ชาวเอลซัลวาดอร์สามารถชำระค่าตั๋วโดยสารด้วย Bitcoin ขึ้นแท่นกลายเป็นสายการบินแห่งแรกของโลกที่รับชำระเงินด้วย Bitcoin
Volaris เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ว่า กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการให้ลูกค้าในเอลซัลวาดอร์ได้มีทางเลือกในการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลสำหรับบริการที่สนามบิน
กระแสการตอบรับและยอมรับการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ โดยปัจจุบันมูลค่าโดยรวมของคริปโตเคอร์เรนซีพุ่งสูงเกือบ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในตลาดอย่าง Apple ขณะเดียวกันก็มีผู้ใช้งานสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกแล้วมากกว่า 200 ล้านคน ซึ่งด้วยมูลค่า ขนาด และจำนวน ทำให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไป
ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพีได้รวบรวมความเห็นของนักวิเคราะห์ที่เห็นตรงกันว่า ความนิยมของคริปโตเคอร์เรนซีจากกระแสหลัก โดยเฉพาะจากบริษัทเอกชนชั้นนำ และสถาบันการเงินการธนาคารรายใหญ่ในตลาด กลายเป็นตัวทั้งตัวเร่งและตัวกดดันให้หน่วยงานของรัฐเร่งสรรหามาตรการเพื่อเข้ามากำกับดูแล โดยเฉพาะความปลอดภัย ความโปร่งใส เพื่อคุ้มครองนักลงทุน
ขณะเดียวกัน แนวโน้มการเติบโตของสกุลเงินดิจิทัล ยังทำให้หลายภาคส่วนในตลาดวอลล์สตรีทต่างมองหาช่องทางเข้าไปทำรายได้หรือทำกำไรจากตลาดคริปโตฯ ซึ่งคาดการณ์ได้ว่า นับจากนี้ตลาดน่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกี่ยวกับคริปโตฯ นอกเหนือจาก Bitcoin ETF ออกมามากขึ้น
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/10/19/first-bitcoin-futures-etf-rises-2percent-in-trading-debut.html
- https://www.channelnewsasia.com/business/volaris-el-salvador-set-accept-bitcoin-2255742
- https://apnews.com/article/technology-business-bitcoin-f6d7ba724bf156fd5d603661c99fd5c2
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP