กลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ได้รับความสนใจและเป็นที่น่าจับตามองของนักลงทุนอีกครั้ง สำหรับบิตคอยน์ สกุลเงินดิจิทัล หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับล่าสุดที่ 18,000 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน มูลค่าของบิตคอยน์ยังคงทวีความร้อนแรง และมีแนวโน้มปรับตัวพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง จนน่าจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระลอกใหม่ที่ 20,000 ดอลลาร์ โค่นสถิติเดิมที่เคยทำไว้ที่ 19,000 ดอลลาร์ ในปี 2560
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การปรับขึ้นของบิตคอยน์ในครั้งนี้แตกต่างจากในอดีต ที่นักลงทุนแห่ซื้อบิตคอยน์เพื่อหวังเก็งกำไร เพราะการเข้าซื้อบิตคอยน์ในคราวนี้ของนักลงทุนส่วนใหญ่ ล้วนเห็นสกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวเป็นหนึ่งในตัวเลือกของสินทรัพย์ปลอดภัยที่สามารถลงทุนเพื่อรักษาเงินต้นไว้ได้
ย้อนกลับไปในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า หลังจากที่พุ่งทำนิวไฮไปไม่นาน ราคาของบิตคอยน์ก็ค่อยๆ ทยอยปรับตัดลดลง จนไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนในตลาด ก่อนที่จะกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เมื่อบรรดาบริษัทและสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก เช่น PayPal, Mastercard ออกมาประกาศยอมรับสถานะของบิตคอยน์อย่างจริงจัง ขณะที่บรรดาธนาคารกลางในอีกหลายประเทศก็เดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ในการออกสกุลเงินดิจิทัลกลางของตนเอง
นอกจากนี้ ภายใต้การพัฒนาระบบเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ช่วยจำกัดปริมาณบิตคอยน์ ทำให้บิตคอยน์มีสถานะใกล้เคียงกับทองคำ คือมีจำกัดเพียงแค่ 21 ล้านบีทีซี (สกุลเงินของบิตคอยน์) อีกทั้งคุณสมบัติที่ยากจะปลอมแปลง ส่งผลให้บิตคอยน์มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นเครื่องมือแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ หลังจากทำสถิติแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ราคาของบิตคอยน์ในปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 237% โดยมีมูลค่าตลาดทั่วโลกอยู่ที่ 5.1 แสนล้านดอลลาร์ และเริ่มมีหลายประเทศออกกฎหมายรับรองสถานะของบิตคอยน์ ที่สามารถนำไปจับจ่ายใช้สอยและชำระหนี้ได้ เช่นเดียวกับสกุลเงินหลักๆ ของโลก
รายงานยังพบว่า หลังจากเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับทาง PayPal ขณะนี้มีร้านค้าใน PayPal ยอมรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลแล้วถึง 26 ล้านราย
ด้วยการยอมรับที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาจับจ่ายหาซื้อสินค้าบนโลกออนไลน์ รวมถึงเริ่มปรับตัวให้คุ้นชินกับ ‘สังคมไร้เงินสด’ มากขึ้น ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า สถานะของบิตคอยน์ต่อจากนี้ จะกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกในการลงทุนที่เทียบเท่าหุ้น ตราสารหนี้ และสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาดในห้วงเวลานี้
แม้จะมีกระแสวิตกกังวลเกี่ยวกับประเด็นด้านความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ กระนั้นหลายฝ่ายก็คาดหวังว่า การยกระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบของหน่วยงานทางการทั้งหลายทั่วโลก จะช่วยให้บิตคอยน์มีความน่าเชื่อถือ ผันผวนน้อยลง และถอยห่างจากการกลายเป็นเครื่องมือทางอาชญากรรมต่างๆ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
