ในช่วงวันอังคารที่ 5 มีนาคม 2024 ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 68,533 ดอลลาร์สหรัฐ ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเดิมที่ทำไว้ประมาณ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นการปรับตัวขึ้นกว่า 62.31% นับตั้งแต่ต้นปี (YTD)
อย่างไรก็ตาม ราคาที่พุ่งขึ้นมาจนถึงขณะนี้เป็นการปรับตัวขึ้นร้อนแรงกว่าที่นักเก็งกำไรจำนวนมากและบรรดานักวิเคราะห์ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ราคาพุ่งทะลุ 64,000 ดอลลาร์ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการปรับฐานของราคาหลังจากนี้
Venture Founders แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล มองว่า รูปแบบทางราคาของ Bitcoin ในปัจจุบันเป็นรูปแบบที่เรียกว่า ‘Cup and Handle’ หรือลักษณะของกราฟราคารูปถ้วยและหูจับ ซึ่งอาจทำให้ราคา Bitcoin ปรับตัวลงไปทดสอบที่ 40,000 ดอลลาร์ ในช่วงต่อจากนี้ไปจนถึงไตรมาส 4 ปี 2024 ก่อนที่จะกลับมาทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง
ในขณะที่ ชาร์ลส์ เอ็ดเวิร์ด ผู้ก่อตั้ง Capriole Investments บริษัทด้านการลงทุนแบบ Quantitative ใน Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัล โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ว่า โอกาสที่ Bitcoin จะปรับตัวลงนั้นมาจากราคา Bitcoin ที่ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน ขณะที่การระดมทุนในคริปโตเคอร์เรนซีเพิ่มขึ้นมากเป็น 6-9 เท่าของปกติ และกระแสเงินไหลเข้า Spot ETF ที่เริ่มชะลอตัว รวมไปถึงแรงเก็งกำไรในเหรียญ Meme จนทำให้ราคาทำสถิติใหม่
เอ็ดเวิร์ดมองว่า เงื่อนไขเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดูไม่สนับสนุนให้ Bitcoin สามารถปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงต่อไปได้ พร้อมเตือนว่า ในช่วงกลางถึงปลายเดือนมีนาคมอาจได้เห็นการปรับตัวลงแรงของ Bitcoin ก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ เขาก็ยังมีมุมมองที่ดีต่อ Bitcoin ในระยะยาว
ในขณะที่นักวิเคราะห์ของ Bloomberg ประเมินว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีโอกาสที่จะยังไม่เร่งรีบลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้สภาพคล่องในระบบอาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก
ไม่เพียงเท่านั้น จากข้อมูลของ Crypto Fear and Greed Index บ่งชี้ว่า ตลาดคริปโตกำลังอยู่ในช่วงที่ความโลภ (Extreme Greed) เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบหลายปีมาอยู่ที่ระดับ 82 จาก 100 จากการที่ราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้นักลงทุนมือใหม่เริ่มกลับเข้ามาสนใจมากขึ้น
อ้างอิง: