บริษัทด้านข้อมูลพบว่า เหรียญคริปโต Bitcoin และ Ethereum กำลังมีความผันผวนต่ำกว่าสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้านคริปโต Kaiko พบว่า ณ เดือนสิงหาคม ความผันผวนของเหรียญ Bitcoin และ Ethereum ในรอบ 90 วันที่ผ่านมา อยู่จุดต่ำสุดในรอบ 7 ปีที่ 35% และ 37% ตามลำดับ ซึ่งกำลังเคลื่อนไหวในกรอบที่ต่ำกว่าสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน ซึ่งมีความผันผวนอยู่ถึง 41% ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ (18 สิงหาคม) ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวที่บริเวณ 26,701 ดอลลาร์ ปรับตัวลงไปราว 5% จากช่วงก่อนหน้า ในขณะที่ Ethereum เคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,690 ดอลลาร์ ปรับตัวขึ้นมา 0.53% ในรอบ 24 ชั่วโมง
หลังจากที่สำนักข่าว The Wall Street Journal รายงานว่า SpaceX บริษัทด้านอวกาศของ อีลอน มัสก์ มีการขาย Bitcoin และลงบันทึกบัญชีจากการขาดทุนไปกว่า 373 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 12,600 ล้านบาท
ซึ่งจากข้อมูลของ Kaiko ยังเผยอีกว่า ความผันผวนของเหรียญคริปโตทั้งสองในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ในระดับที่สูงกว่าปีนี้มากกว่าเท่าตัวหนึ่ง โดยมีความผันผวนของเหรียญ Bitcoin และ Ethereum อยู่ที่ราว 80% และ 110% ตามลำดับ
นอกเหนือจากความผันผวน 90 วันของ Bitcoin ที่ลงมาอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบ 7 ปีแล้วนั้น ความผันผวนของเหรียญดังกล่าวในรอบวันยังลงมาอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบ 5 ปีอีกเช่นกัน
ทางบัญชี CryptoCon ที่ติดตามและวิเคราะห์ทิศทางของ Bitcoin ผ่านแพลตฟอร์ม X (Twitter) ได้แสดงความเห็นว่า ตลาดคริปโตมีรอบวัฏจักรที่คล้ายกัน โดยในช่วงปี 2020 ก่อนที่ Bitcoin จะเข้าสู่รอบขาขึ้นครั้งใหม่ เหรียญดังกล่าวก็เคยผ่านช่วงที่ความผันผวนของราคาเข้าสู่จุดต่ำสุดในรอบหลายปีก่อนเช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็อาจต้องระวังจังหวะเคลื่อนไหวออกข้าง (Sideway) ของเหรียญดังกล่าวเช่นกัน
CryptoCon ตั้งข้อสังเกตว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ ‘Black Swan’ อย่างโควิดในปี 2020 ราคาของ Bitcoin ก็ปรับตัวลงไปกว่า 50% ซึ่งต่ำกว่า 5,000 ดอลลาร์เลยด้วยซ้ำ แต่ก็สามารถฟื้นตัวกลับได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่เดือนต่อมา
และ ณ ขณะนั้น ช่วงที่ Bitcoin กำลังเคลื่อนไหวใกล้ระดับราคาที่ 10,000 ดอลลาร์ โมเมนตัมของราคาก็หายไปอีกครั้ง ความผันผวนของเหรียญดังกล่าวกลับเข้าสู่ระดับต่ำอีกรอบ และภายหลังจากนั้น 3 เดือน ราคาของ Bitcoin ก็พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงทำจุดสูงสุดใหม่ เพื่อทำฐานใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งตามการวิเคราะห์ของบัญชีดังกล่าวได้ข้อสรุปว่า Bitcoin มักจะมีรูปแบบที่ความผันผวนของราคาจะแตะจุดต่ำสุดก่อนหนึ่งรอบ แล้วราคา Bitcoin ถึงจะปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
อ้างอิง: