ฟิลลิป กิลเลสปี ผู้บริหารของ Crypto Market Maker and Liquidity Provider ของ B2C2 Japan กล่าวว่าเมื่อ ‘ดิจิทัลหยวน’ ถูกปล่อยออกมาให้ใช้งาน นั่นจะเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในจีน และมีโอกาสที่จะเกิดการขายอย่างตื่นตระหนก (Panic Selling) ตามมาได้ ถ้าหากเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของเหรียญดิจิทัล
อำนาจของธนาคารกลางในการออกสกุลเงินดิจิทัลและกีดกันคู่แข่งเป็นหนึ่งในความเสี่ยงหลักของตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนชาวจีนก็ถูกห้ามในการแลกเงินหยวนกับโทเคนต่างๆ แต่ประเด็นนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและปรับปรุงโดยทดลองกับเหรียญ Tether ทำให้เงินลงทุนไหลจาก Tether เข้าสู่บิตคอยน์และเหรียญอื่นๆ แทน
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนมีโอกาสจะเป็นธนาคารกลางแรกที่เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัล หลังจากที่ใช้เวลาพัฒนามาหลายปี
จากรายงานล่าสุดของ JPMorgan Chase & Co. ระบุว่ามีโอกาสที่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมจะเผชิญกับสภาพคล่องตึงตัวเฉียบพลัน (Liquidity Shock) หากการควบคุมกระทบต่อความสามารถในการใช้เหรียญ Tether ของนักลงทุน
ทอดด์ โมราคิส ผู้ร่วมก่อตั้ง Digital-Finance Product and Service Provider JST Capital ระบุว่านับตั้งแต่ที่ฝ่ายกำกับเริ่มเข้มงวดมากขึ้นกับ Stablecoin ถือเป็นผลลบอย่างมากต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซี เพราะสภาพคล่องจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: