เว็บไซต์ข่าวสถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ราคาบิทคอยน์ปรับตัวดิ่งลงอย่างหนักจนอยู่ระดับต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม โดยข้อมูลจาก Coin Metrics พบว่า ราคาของสกุลเงินดิจิทัลหลักลดลง 7% มาอยู่ที่ 59,562.54 ดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขต่ำสุดของวันจันทร์ (24 มิถุนายน) ราคาบิทคอยน์ปรับตัวลงมากถึง 59,021.42 ดอลลาร์ ซึ่งลดลงประมาณ 19% จากสถิติในเดือนมีนาคม
ขณะเดียวกัน เมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาบิทคอยน์ในตลาดปรับตัวลดลงแล้วถึง 11%
ด้าน CoinShares ผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัล ชี้ว่า มีการไหลออกในผลิตภัณฑ์การลงทุนคริปโตเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีปริมาณการซื้อขายบิทคอยน์ที่ต่ำที่สุดทั่วโลกนับตั้งแต่ Bitcoin ETF ของสหรัฐฯ เปิดตัวในเดือนมกราคม โดย James Butterfill หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ CoinShares กล่าวว่า ตอนนี้เราได้เห็นการไหลออกของ Crypto ETFs มูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นหลังจากการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของ Fed โดยมุมมองความเชื่อยังคงเป็นลบอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเห็นว่าการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed กำลังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของคริปโต
Butterfill อธิบายเพิ่มเติมว่า การที่ Fed ต้องการหลักฐานเพิ่มเติมยืนยันการปรับลดอัตราเงินเฟ้อก่อนที่จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะมีผลต่อสินทรัพย์ที่มักได้รับความนิยมช่วงเงินเฟ้อ ซึ่งหมายรวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล
ด้าน Eleanor Gaywood หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ Coincover กล่าวว่า ตลาดมักจะเกิดความกระวนกระวายใจก่อนดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ต้องการของ Fed ซึ่งจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (28 มิถุนายน) ก่อนชี้ให้เห็นสัญญาณของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ที่อาจทำให้นักลงทุนคลายความกังวล และทำให้ราคาของบิทคอยน์กลับมาคงที่ได้
นอกจากนี้ บิทคอยน์ยังเห็นการเพิ่มขึ้นของการ Liquidations ซึ่งเป็นการขายทรัพย์สินเป็นเงินเพื่อทำให้เกิดสภาพคล่องในพอร์ต ทำให้ผู้ค้าต้องขายสินทรัพย์ของตนในราคาตลาดเพื่อชำระหนี้ ตามข้อมูลของ CoinGlass พบว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการ Liquidations บิทคอยน์ระยะยาวมูลค่า 152.66 ล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นในแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนแบบส่วนกลาง
นอกเหนือจากบิทคอยน์ที่ร่วงลงอย่างมากแล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ก็ทำงานผลงานในระดับที่ไม่ได้ดีไปกว่ากัน โดย Ether ปรับตัวร่วงลง 4% ในขณะที่โทเคนที่เชื่อมโยงกับ Smart Contracts Platform อย่าง Solana ลดลง 2% พร้อมด้วยโทเคนการชำระเงิน XRP Meme Token Dogecoin ลดลงเกือบ 6% ส่วนในตลาดหุ้น Coinbase และ MicroStrategy ลดลง 6% และ 7% ตามลำดับ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว CryptoQuant ชี้ว่า บิทคอยน์อาจปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 60,000 ดอลลาร์ หลังจากทะลุแนวรับสำคัญที่ 65,800 ดอลลาร์ เนื่องจากขาดโมเมนตัมขาขึ้น ซึ่งข้อมูลออนไลน์ของบริษัทแสดงให้เห็นว่า ผู้ค้าลดการถือครองลงนับตั้งแต่บิทคอยน์แตะระดับ 70,000 ดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม และยังไม่ได้เริ่มซื้ออีกครั้ง
ในเดือนมิถุนายนนี้ บิทคอยน์ลดลงเกือบ 10% โดยเมื่อต้นเดือนมิถุนายน ราคาบิทคอยน์แตะระดับ 71,000 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ ก่อนทยอยลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้นมา ราคาส่วนใหญ่ติดอยู่ในช่วงกรอบแคบๆ ระหว่าง 60,000-70,000 ดอลลาร์นับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ซึ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 73,797.68 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองภาพรวมตลอดทั้งปี นักลงทุนและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมั่นใจว่าสกุลเงินดิจิทัลจะฟื้นตัวและสร้างสถิติใหม่ในปีนี้
อ้างอิง:
