Changpeng Zhao ซีอีโอ Binance เว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก รับสารภาพในข้อกล่าวหาการละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคาร กฎหมายต่อต้านการฟอกเงินของสหรัฐฯ และประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอแห่ง Binance นอกจากนี้บริษัทยังต้องจ่ายค่าปรับมากถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นค่าปรับที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว อนาคตของเว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามปริมาณการซื้อขายจะเป็นอย่างไรต่อไป
เกิดอะไรขึ้นกับ Binance และ CZ
Changpeng Zhao หรือ CZ ซีอีโอ Binance อยู่ภายใต้การสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการฟอกเงิน การโอนเงินที่ผิดกฎหมาย และการละเมิดบทลงโทษทางอาญา อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน CZ ได้รับสารภาพในการละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน และประกาศลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Binance โดยเขาจะต้องเสียค่าปรับให้กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นจำนวนเงิน 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ค่าปรับจำนวนมหาศาลนี้อาจทำให้บางบริษัทประสบกับปัญหาล้มละลายได้ แต่เมื่อเทียบกับทุนสำรองของ Binance บทลงโทษนี้ถือเป็นจำนวนเล็กน้อย ตามรายงาน Proof of Reserves ล่าสุด Binance มีสินทรัพย์คริปโตมูลค่าประมาณ 6.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงเหรียญ Stablecoin มูลค่า 3.19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ตัวเลขนี้ยังไม่ได้รวมยอดเงินสดที่ถือครองอยู่นอกเครือข่าย หรือเงินทุนที่เก็บไว้ในกระเป๋าเงินที่ไม่เปิดเผย อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก และส่งผลให้ Binance เจอกับเงินทุนไหลออกมหาศาลภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
Binance เจอเงินทุนไหลออกมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ชุมชนสกุลเงินดิจิทัลตอบสนองอย่างรวดเร็วกับการลาออกของ CZ ข้อมูลล่าสุดจาก DefiLlama เผยให้เห็นว่า Binance เจอกับเงินทุนไหลออก (Outflow) ตลอด 24 ชั่วโมง มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการไหลออกสุทธิ (Net Outflow) มากถึง 703.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 7 วันล่าสุด
ในขณะเดียวกัน OKX กลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด โดยมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ (Net Inflow) 152.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามมาด้วย Bybit และ KuCoin การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้ใช้งานที่มีต่อเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัล
Richard Teng ขึ้นเป็นซีอีโอคนใหม่ของ Binance
หลังจากที่ CZ ประกาศอำลาตำแหน่ง Richard Teng ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอแห่ง Binance แทน ซึ่งเขาได้สร้างความมั่นใจให้กับฐานผู้ใช้งานด้วยการโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า พื้นฐานของบริษัท Binance นั้นแข็งแกร่งมาก และบริษัทจะสามารถชำระค่าปรับจำนวน 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้โดยไม่ต้องขายสินทรัพย์ใดๆ นอกจากนี้เขายังเผยว่าจะร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อรักษามาตรฐานระดับสูง ส่งเสริมนวัตกรรม รวมถึงให้ความคุ้มครองผู้บริโภค และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต และการนำ Web3 มาใช้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่า CZ จะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ แต่เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท และสามารถให้คำแนะนำผู้บริหารในบริษัทได้เหมือนเดิม
อนาคตของ Binance เว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Binance ถือเป็นที่เว็บเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย และนับตั้งแต่การล่มสลายของ FTX เว็บเทรด Binance ได้ครองส่วนแบ่งทางตลาดทั่วโลกถึง 66 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนแบ่งทางตลาดจะลดลงเหลือน้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ Binance ก็ยังคงเป็นเว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดของโลกในตอนนี้
Markus Thielen จาก Matrixport วิเคราะห์ว่า ผลกระทบด้านกฎระเบียบที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ กวาดล้างอุตสาหกรรม อาจทำให้ Bitcoin (BTC) เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ในขณะเดียวกัน การเพิ่มขึ้นของเว็บเทรดคริปโตควบคู่ไปกับการตรวจสอบทางด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลมีความชอบธรรมมากขึ้น และนำไปสู่การอนุมัติกองทุน Bitcoin Spot ETF ที่คาดหวังมานานในที่สุด นอกจากนี้ Travis Kling เผยว่า กองทุน Bitcoin Spot ETF ในสหรัฐฯ จะได้รับการอนุมัติหลังจากที่ Binance หลุดจากตำแหน่งผู้นำตลาดคริปโตเท่านั้น
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง: