หลังมีการประกาศเมื่อกลางเดือนที่แล้วว่า บิลลี่ อายลิช จะมาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์สายลับเจมส์ บอนด์ ภาคใหม่ ‘No Time to Die’ แฟนเพลงต่างตื่นเต้นว่าจะออกมารูปแบบไหน ซึ่งเมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย บิลลี่ได้ปล่อยเพลงที่ใช้ชื่อเดียวกันกับภาพยนตร์ออกมาแล้ว ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวัง และเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของศิลปินหญิงคนนี้ที่เพิ่งอายุ 18 ปี ซึ่งน้อยคนนักจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางสายดนตรีได้รวดเร็วขนาดนี้
No Time to Die เป็นเพลงแนวดาร์กป๊อปโหยหวนที่เก็บกลิ่นอายความเป็นแนวเพลงแบบบิลลี่ที่เราคุ้นเคย ขณะเดียวกันก็แทรกความเป็นซีเนมาติกด้วยเครื่องเสียงออร์เคสตราสไตล์เพลงประกอบภาพยนต์เจมส์ บอนด์ หลายๆ เรื่องเข้าไป โดยเพลงนี้เธอเขียนร่วมกับพี่ชาย ฟินเนียร์ส โอคอนเนลล์ และได้โปรดิวเซอร์เพลงมือฉมังชาวอังกฤษ สตีเฟน เจ. ลิปสัน ที่เคยทำงานกับ พอล แม็กคาร์ตนีย์, แอนนี่ เลนนิกซ์, เจฟฟ์ เบค หรือแม้กระทั่งเพลงประกอบภาพยนตร์ The Dark Knight Rises มาดูแลส่วนดนตรีร่วมกับฟินเนียร์ส
No Time to Die ทำให้เธอเป็นนักร้องอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์แฟรนไชส์สายลับ 007 ด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น หากย้อนกลับไป ศิลปินที่เคยทำเพลงให้แฟรนไชส์สายลับเจมส์ บอนด์ ได้แก่ พอล แม็กคาร์ตนีย์, Duran Duran, มาดอนน่า, คริส คอร์เนลล์, เชอร์ลีย์ บาสซีย์, ทอม โจนส์ และ Garbage ฯลฯ ส่วนเพลงประกอบสองภาคก่อนอย่าง Writing’s on the Wall จาก Spectre (2015) ร้องโดย แซม สมิธ และ Skyfall (2012) ร้องโดยนักร้องสาวเสียงทรงพลัง อเดล ก็สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาครองได้ทั้งสองคน ซึ่งบิลลี่ก็ถือว่ามีโอกาสสูงที่จะมีชื่อเข้าชิงเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมช่วงเทศกาลแจกรางวัลปีหน้า
นอกจากบิลลี่จะมาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ No Time to Die ที่จะเข้าฉายช่วงเดือนเมษายน นักประพันธ์เพลงอันดับต้นๆ ของวงการหนังฮอลลีวูดชาวเยอรมันอย่าง ฮันส์ ซิมเมอร์ ก็จะมาดูแลด้านดนตรีประกอบทั้งหมด
ด้านบิลลี่เอง ถึงแม้ No Time to Die จะเป็นผลงานเพลงแรกของปี 2020 และเธอก็ได้กล่าวในสัมภาษณ์ว่าจะยังไม่ออกอัลบั้มในปีนี้แน่นอน แต่ตารางงานของศิลปินวัย 18 ปีคนนี้ก็ถือว่าแน่นสุดๆ เพราะหลังจากที่เธอไปกวาด 5 รางวัลที่งาน Grammy Awards และไปร้องเพลงในช่วง In Memoriam ของงานออสการ์ช่วงเดือนที่ผ่านมา เธอก็กำลังจะเริ่มต้นเวิลด์ทัวร์ไปยัง 4 ทวีปรอบโลกในเดือนหน้ากับ Where Do We Go? World Tour ซึ่งรวมไปถึงประเทศแถบเอเชียด้วย
สามารถฟังเพลง No Time To Die ได้ที่นี่
ภาพ: Facebook.com/BillieEilish
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์