วานนี้ (21 พฤษภาคม) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ยืนยันแล้วว่าเขาจะไม่ใช้เครื่องบินรบ F-16 ที่ชาติพันธมิตรตะวันตกเป็นผู้จัดหามาให้ในการบุกเข้าไปโจมตีลึกถึงในดินแดนของรัสเซีย
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไบเดนได้ประกาศในที่ประชุม G7 ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดฮิโรชิมาของญี่ปุ่นว่า สหรัฐฯ สนับสนุนความพยายามของชาติตะวันตกที่จะเปิดการฝึกอบรมให้ทหารของยูเครนสามารถขับเครื่องบินรบ F-16 เป็น รวมถึงส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ จะอนุญาตให้ชาติเหล่านี้สามารถจัดหา F-16 ให้กับยูเครนได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญ หลังจากเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรต่างแสดงท่าทีลังเลต่อคำขอของยูเครนมาโดยตลอด
ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างอยู่ในญี่ปุ่นว่า F-16 อาจสามารถนำไปใช้ในสงครามที่เกิดขึ้นได้ แต่เน้นย้ำว่าต้องอยู่ในอาณาเขตของยูเครนเท่านั้น
การจัดหาเครื่องบิน F-16 ให้ยูเครนเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน โดยไบเดนกล่าวว่า ‘มีความเป็นไปได้สูง’ ว่ายูเครนจะยังไม่สามารถนำเครื่องบิน F-16 ไปใช้เปิดศึกโต้กลับรัสเซียได้ในเร็วๆ นี้ แต่ถึงเช่นนั้นทหารยูเครนยังคงต้องการอาวุธดังกล่าวเพื่อปกป้องประเทศจากกองกำลังของรัสเซียที่ประจำการอยู่ไกลออกไป
ขณะแถลงการณ์จากกลุ่มประเทศ G7 ที่ออกมาวานนี้ระบุว่า นานาชาติจะเดินหน้าสนับสนุนยูเครนต่อไป แม้รัสเซียจะพยายามสร้างสถานการณ์ให้สงครามที่เกิดขึ้นกินเวลายืดเยื้อก็ตาม โดยในวันเดียวกันประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ประกาศชัยชนะว่ากองทหารรัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่ของเมืองบัคมุตไว้ได้หมดแล้ว แต่ถึงเช่นนั้นทางการเคียฟได้ออกมาปฏิเสธว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะยังมีการต่อสู้กันอยู่ในพื้นที่
สำหรับความเคลื่อนไหวสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไบเดนได้ประกาศเพิ่มงบช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนรอบใหม่อีก 375 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงอาวุธ เครื่องกระสุน และยานเกราะต่างๆ ด้วย
แม้ขณะนี้ชาติตะวันตกจะยังไม่ได้ยืนยันมั่นเหมาะว่าใครจะเป็นผู้ที่จัดหา F-16 ให้กับยูเครน (เพราะที่ประกาศออกมา ณ ตอนนี้มีแค่ชาติที่แสดงเจตจำนงในการฝึกบินเท่านั้น) แต่เซเลนสกีมั่นใจว่ายูเครนจะได้รับ F-16 จากพันธมิตรโลกตะวันตกแน่นอน หลังจากที่ได้มีการร้องขออาวุธดังกล่าวมาอย่างยาวนาน
ภาพ: Brendan Smialowski / AFP และ Louise Delmotte / POOL
