วานนี้ (8 มกราคม) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางเยือนพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกเป็นครั้งแรก หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำเมื่อเดือนมกราคม 2021 ท่ามกลางแรงกดดันจากพรรครีพับลิกันที่โจมตีว่า การบังคับใช้นโยบายด้านพรมแดนของสหรัฐฯ นั้นไม่เข้มแข็งพอ จนทำให้มีผู้อพยพไหลทะลักเข้าประเทศสูงเป็นประวัติการณ์
เจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนได้พาไบเดนเยี่ยมชมส่วนหนึ่งของกำแพงที่กั้นแบ่งระหว่างสองประเทศ ซึ่งสร้างขึ้นในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำจากพรรครีพับลิกัน รวมถึงยังได้เยี่ยมชมสะพานแห่งอเมริกา (Bridge of the Americas) ซึ่งเชื่อมต่อสหรัฐฯ และเม็กซิโกเข้าด้วยกัน พร้อมชมอุปกรณ์ที่เจ้าหน้าที่ชายแดนใช้ในการตรวจจับยาเสพติด เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเขานั้นจริงจังกับการแก้ปัญหาเรื่องผู้อพยพ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ไบเดนได้ออกมาประกาศว่า สหรัฐฯ จะขยายขอบเขตการใช้นโยบายด้านการข้ามพรมแดนที่ออกในยุคของทรัมป์ โดยอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสามารถขับไล่ผู้อพยพจากคิวบา นิการากัว และเฮติ ที่ถูกจับ ณ บริเวณพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกกลับประเทศได้ เพื่อสกัดผู้อพยพที่ล้นทะลักเข้ามาในประเทศ แต่ในอีกทางหนึ่งก็ได้ออกนโยบายในลักษณะที่ผ่อนปรนด้วย โดยสหรัฐฯ จะอนุญาตให้ผู้อพยพที่มาจากสามประเทศดังกล่าว รวมถึงเวเนซุเอลา ราว 30,000 คนต่อเดือน สามารถเดินทางเข้าประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายผ่านทางเครื่องบิน แต่ต้องมีผู้สนับสนุนจากสหรัฐฯ และผ่านการตรวจสอบประวัติแล้ว
อย่างไรก็ตาม การประกาศของไบเดนนั้นก็ยังไม่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิกพรรครีพับลิกันได้ โดย จิม จอร์แดน ส.ส. จากพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ เปิดเผยกับสำนักข่าว Fox News ว่าไบเดนควรใช้นโยบายที่เข้มงวดแบบในสมัยของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการแยกเด็กออกจากพ่อแม่ผู้อพยพ ขณะที่ เกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส กล่าวโจมตีว่าไบเดนไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ ไบเดนหวังที่จะกระชับความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดน ซึ่งบางคนไม่พอใจที่รัฐบาลยกเลิกนโยบายชนิดสายแข็ง ขณะที่ตอนนี้เป้าหมายระยะยาวของสภาคองเกรสในการปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองนั้นก็เสี่ยงที่จะไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวัง หลังผลออกมาว่า เควิน แมคคาร์ธี จากพรรครีพับลิกัน ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ โดยที่ผ่านมานั้น ส.ส. ฝ่ายขวาจัดได้ปฏิเสธข้อเสนอในการปฏิรูปนโยบายด้านคนเข้าเมืองมาโดยตลอด
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 ในวันแรกที่ไบเดนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เขาได้ยื่นแผนปฏิรูปนโยบายคนเข้าเมืองต่อสภาคองเกรส แต่ในที่สุดก็เผชิญกับการต่อต้านจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งคัดค้านการใช้งบประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อยกระดับการตรวจตราชายแดน โดยสมาชิกพรรครีพับลิกันได้ผลักดันแผนงานของตนเอง หลังจากได้รับเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2022
ภาพ: Jim Watson / AFP
อ้างอิง: