ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงผลลัพธ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยคาดว่า โจ ไบเดน จะเป็นฝ่ายคว้าชัยเฉือนเอาชนะ โดนัลด์ ทรัมป์ ไปแบบเฉียดฉิว
การคาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีดังกล่าว มาจากตัวทำนายผลประธานาธิบดี (Presidential Predictor) ของสถาบันวิจัย CFRA Research ซึ่งอิงปัจจัยชี้วัดอย่าง ดัชนี S&P 500 ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท โดยความเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวลดลง 0.04% ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม ทำให้คาดการณ์ได้ว่าไบเดนจะชนะ
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นถือเป็นดัชนีชี้วัดที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ โดยอิงจากการเลือกตั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อใดก็ตามที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงในช่วง 3 เดือนก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งในห้วงเวลานั้นมักจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งถึง 88%
ขณะเดียวกัน หากดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในเวลานั้นจะชนะการเลือกตั้งถึง 82%
โดยก่อนหน้าการเลือกตั้งจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นได้คาดการณ์ว่าทรัมป์จะชนะ ทว่าการปิดตลาดส่งท้ายสัปดาห์ด้วยการปรับตัวลดลง 1.2% ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นโดยรวมในช่วง 3 เดือนปรับตัวในแดนลบ ผลักให้ไบเดนน่าจะเฉือนชนะไปได้อย่างฉิวเฉียด
การคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของบรรดานักวิเคราะห์หลายสำนักในตลาดวอลล์สตรีท โดยนักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า มีโอกาสที่ผลการเลือกตั้งจะเป็น ‘บลู เวฟ’ ที่พรรคเดโมแดรตจะคว้าชัยชนะได้ครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา คือสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาด เพราะหมายถึงโอกาสในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ที่มีมูลค่าอย่างน้อย 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคมปีหน้า
ขณะเดียวกัน การคาดการณ์ชัยชนะของ ‘ไบเดน’ ข้างต้นยังสอดคล้องกับผลโพลสุดท้ายของหลายสำนัก ซึ่งรวมถึง NBC News/Wall Street Journal ที่พบว่า ในวันสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์อยู่ 10% ที่ 52 ต่อ 42%
นอกจากนี้ 6 ใน 10 ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งยังเห็นว่า สหรัฐฯ เดินบนหนทางที่ผิดพลาดภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ และส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบกับแนวทางการจัดการรับมือปัญหาการระบาดของประธานาธิบดี โดย 51% กล่าวว่าไม่มีทางสนับสนุนทรัมป์ เมื่อเทียบกับอีก 40% ที่ระบุว่า ไม่มีทางสนับสนุนไบเดน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในประเด็นด้านเศรษฐกิจ 55% ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งยังคงเห็นชอบกับแนวทางการบริหารด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์
ทั้งนี้ คะแนนเสียงส่วนใหญ่ของโจ ไบเดน มาจากชาวอเมริกันผิวสีมากถึง 87% เมื่อเทียบกับทรัมป์ ซึ่งอยู่ที่ 5%
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
