วันนี้ (9 มิถุนายน) กรวีร์ ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า พ.ร.ก. ฉบับนี้มีความสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยสิ่งที่ประชาชนคาดหวังที่จะเห็นในการกู้เงินครั้งนี้ คือการที่จะไม่ซ้ำรอยเดิมในการกู้ 1 ล้านล้านบาทที่ผ่านมา โดยสิ่งที่จะเป็นไปได้รัฐบาลจะต้องทำใน 3 สิ่งดังนี้
– ต้องจริงจังกับการแก้ปัญหาสาธารณสุข
– ต้องไม่เยียวยาแบบเดิม
– ต้องฟื้นฟูสร้างประเทศเพื่ออนาคต
กรวีร์อภิปรายอีกว่า ไม่ต้องการที่จะเห็นรัฐบาลนำระบบสาธารณสุขมาเป็นข้ออ้างบังหน้าในการกู้เงินในครั้งนี้ โดยครั้งที่ผ่านมาเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท มีงบของสาธารณสุขเพียง 4 แสน 5 หมื่นล้านบาท และครั้งนี้ที่รัฐบาลจะขอกู้เงิน 5 แสนล้านบาท มีงบของกระทรวงสาธารณสุขไม่กี่หมื่นล้าน ซึ่งเมื่อเทียบแล้วมีงบของกระทรวงสาธารณสุขเพียง 6% เท่านั้น ถ้าหากว่ารัฐบาลเข้าใจได้ และรู้ว่าต้นเหตุสำคัญคืออะไรที่จะต้องยุติและไม่ทำอีก
ถ้ารัฐบาลเข้าใจ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการกลั่นกรองที่มีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นประธาน คงจะไม่มีมติในการชะลอการจ่ายเงินค่าเยียวยา ค่าตอบแทน และค่าเสี่ยงภัยของอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านหรือ อสม.
ถ้ารัฐบาลเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนจริง การเบิกจ่ายเงินเยียวยาจะไม่ล่าช้าดังที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของรัฐบาลว่าไม่ได้เข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงเท่าที่ควร
กรวรีร์อภิปรายอีกว่า สำหรับต้องที่สองคือ ต้องไม่เยียวยาแบบเดิม เมื่อรัฐบาลยังคิดอยู่ในกรอบและนโยบายแบบเดิม ในวันนี้รัฐบาลจะไม่ต้องมากู้เงินเพิ่มอีก ดังนั้นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยต้องการจะเสนอคือ ไม่ต้องการเห็นการแจกเงินของรัฐบาล แต่อยากให้รัฐบาลมองไปถึงการสร้างงานสร้างอาชีพและสร้างรายได้ เปลี่ยนจากการเสกเงิน มาเสกงาน สร้างโอกาสและสร้างอาชีพ
ต้องที่สามคือ ต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศเพื่ออนาคต ในการกู้เงินของรัฐบาลครั้งที่ผ่านมารัฐบาลได้เคยกล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าตั้งวงเงินการฟื้นฟูเอาไว้ที่ 4 แสนล้านบาท และมาวาดฝันว่าประเทศไทยเมื่อผ่านจากสถานการณ์โควิด-19 จะดีกว่าเดิม ประเทศไทยจะมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อที่จะรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว แต่มาวันนี้เงินฟื้นฟู 4 แสนล้านจากเดิม รัฐบาลกลับโยกงบประมาณไปสมทบเงินเยียวยาให้เหลือเพียง 2 แสน 5 หมื่นล้านบาท ไปกับโครงการคนละครึ่งมากกว่า 2 แสนล้านบาท
“นี่คือสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูเอาจริงเอาจังเพื่อที่จะสร้างอนาคตให้กับประเทศไทย ซึ่งทั้งสามต้องนี้ เป็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยเห็นว่าจำเป็นที่จะต้องอภิปรายเพื่อสะท้อนปัญหา และนำเสนอทางออก ทางแก้ไขให้กับรัฐบาล นอกจากนี้ขอย้ำไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าการกู้เงินในนาทีนี้ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือท่านต้องกู้หน้านายกรัฐมนตรี กู้หน้ารัฐบาล และกู้หน้าความเชื่อมั่นของรัฐบาลด้วย” กรวีร์กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
