วันนี้ (16 พฤศจิกายน) ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุญธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกวิจารณ์การทำงานของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐอเมริกาว่า บริหารสถานการณ์บ้านเมืองผิดพลาด ไร้เดียงสา โดยระบุว่า ช่วงนี้ใช้คำค่อนข้างแรงกับการทำงานนายกรัฐมนตรี ทั้งที่นายกฯ ทำงานมาเพียง 1 เดือนครึ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่ท่านรับปากก็เริ่มออกดอกออกผล ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาสแกมเมอร์ หรือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเบื้องต้น
แนนกล่าวต่อว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้ อยากจะบอกฝ่ายแค้นว่า ใจเย็นๆ ให้ทำหน้าที่ตรวจสอบแบบฝ่ายค้าน ไม่ใช่แบบฝ่ายค้าน ให้ดูดีๆ ว่าสิ่งที่นายกฯ พยายามสื่อและทำอยู่นั้น อย่างแรกคือ อธิปไตยของชาติ ประเทศไทยคือหัวใจหลักที่นายกฯ ต้องปกป้องให้มากที่สุด ซึ่งเห็นได้ชัดว่านายกฯ และทีมคณะรัฐมนตรีพยายามอย่างที่สุดในการเจรจาปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา ในระดับทวิภาคี ส่วนในรายละเอียดอื่นๆ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการทำงานต่อไป
“ไม่ใช่เห็นข่าวอะไรแค่ 1 นาที ก็ออกมาตอบโต้กล่าวหา เกินไปนิด อย่าให้ถึงขั้นเป็นฝ่ายแค้น เราเข้าใจบริบทว่าฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่ของตน แต่ก็ควรจะอยู่ในกรอบที่คำนึงถึงบทบาทของนายกฯ ในการทำเพื่ออธิปไตยของชาติ” แนนกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า นายกฯ พูดไม่สนใจสหรัฐฯ เสมือนไม่มีความรู้หรือความสามารถทางการทูต แนน บุญธิดา กล่าวว่า หากตอบแบบแรงๆ ก็คงไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่าการมีอังเคิลในบริบทของการเมืองไทยที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า นายกฯ ปฏิบัติงานโดยดูบริบทภาพรวม ไม่ใช่เพียงยกเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมาเท่านั้น ที่ผ่านมา นายกฯ ลงพื้นที่เยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดล่าสุด คนไทยควรมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งนี้ ใครก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งบริหารประเทศก็ย่อมมีความห่วงใยบ้านเมืองอยู่แล้ว สิ่งที่นายกฯ ทำไม่ใช่แค่ประโยชน์ด้านอธิปไตย แต่ยังรวมถึงความปลอดภัยของชีวิตทหารแนวหน้า
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าการรักษาอธิปไตยต้องเดินหน้าควบคู่กับเศรษฐกิจ แนน ตอบว่า ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็เดินหน้าเจรจาการค้า ไม่ใช่เฉพาะภาษีสหรัฐฯ แต่ยังมีการเจรจาการค้ากับประเทศอื่นด้วย ยืนยันว่าไทยเดินหน้าในทุกด้านและพูดคุยกับทุกประเทศ
แนน บุญธิดา กล่าวอีกว่า การยุติ Joint Declaration ไทย-กัมพูชา ไม่ได้กระทบเศรษฐกิจ โดยไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจไทยหรือเศรษฐกิจโลก ต่างก็ประสบปัญหาคล้ายคลึงกัน ตนยังมั่นใจว่าการเดินหน้าเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไป ทั้งการค้าในประเทศและระหว่างประเทศ
นอกจากนี้เมื่อวานนายกฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงอย่างชัดเจนว่า Joint Declaration ยังคงมีความชัดเจนในเรื่องการทหารและเขตแดน ส่วนประเด็นด้านการค้าและเศรษฐกิจ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง


