อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยอมรับต่อหน้าสื่อมวลชนว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่ผ่านการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ล้วนเป็นคนการเมืองรุ่นใหม่จาก ‘บ้านใหญ่’ ที่มีแบ็กดี และไม่มีใครมาจากกระบอกไม้ไผ่
สำหรับไฮไลต์การประชุมใหญ่สามัญครั้งนี้อยู่ที่การเลือก ‘เลขาธิการพรรค’ ซึ่งว่างอยู่ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ภายหลังจาก ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีในคดีซุกหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566
ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ที่ประชุมได้เลือก ‘ไชยชนก ชิดชอบ’ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บุรีรัมย์ ลูกชายคนโตของ ‘เนวิน ชิดชอบ’ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และครูใหญ่ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ พร้อมกับการโละกรรมการบริหารชุดเก่าออก และเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด ซึ่งล้วนเป็นคนรุ่นใหม่จากบ้านใหญ่ทั้งหมด
รู้จัก 15 กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยชุดใหม่
สำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นชื่อ ‘อนุทิน’ คนเดิม โดยเริ่มจากการปรับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ซึ่งคนที่หนึ่งคือ ‘สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล’ แม่ทัพเลือกตั้งภาคกลาง ตัวแทนบ้านใหญ่อยุธยา ปัจจุบันอายุ 47 ปี เป็น สส. พระนครศรีอยุธยา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ‘สมทรง พันธ์เจริญวรกุล’ นายกฯ อบจ.พระนครศรีอยุธยา 5 สมัย
ภราดร ปริศนานันทกุล จากบ้านใหญ่อ่างทอง และ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ จากบ้านใหญ่ศรีสะเกษ 2 รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนใหม่
ส่วนรองหัวหน้าพรรคคนที่สองคือ ‘ภราดร ปริศนานันทกุล’ ตัวแทนบ้านใหญ่อ่างทอง ปัจจุบันอายุ 44 ปี เป็น สส. อ่างทอง เป็นลูกชายของ ‘สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล’ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร, อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงเป็นอดีต สส. อ่างทอง 9 สมัย
สำหรับรองหัวหน้าพรรคคนที่สามคือ ‘สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ’ ตัวแทนบ้านใหญ่ศรีสะเกษ ปัจจุบันอายุ 47 ปี เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีต สส. ศรีสะเกษ และนายทุนภาพยนตร์เรื่อง สัปเหร่อ ไทบ้านพันล้าน ลูกชายของ ‘ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ’ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ
ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ทำสัญลักษณ์รูปหัวใจ
สำหรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคและรองเลขาธิการพรรคทั้ง 3 ตำแหน่ง ก็ล้วนเป็นคนการเมืองจากบ้านใหญ่เช่นเดียวกัน ‘ไชยชนก’ ปัจจุบันอายุ 33 ปี ลูกพ่อเนวิน หลานปู่ชัย หลานอาโอ๋ ศักดิ์สยาม ตัวแทนตระกูลชิดชอบรุ่นที่ 3 การได้นั่งตำแหน่งครั้งนี้เขาก็ยอมรับว่า ‘ปฏิเสธไม่ได้’ ว่าการเป็นทายาทตระกูลชิดชอบนั้นส่งผลบวกต่อตนเอง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานต่อประชาชนและสมาชิกพรรคด้วยเช่นกัน
ขณะที่ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคทั้ง 3 ตำแหน่ง คือ
- เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส. อุทัยธานี จากตระกูลไทยเศรษฐ์ หลานชายรัฐมนตรีที่ ‘แสงเยอะ’ ที่สุดในคณะรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’
- พิมพฤดา ตันจรารักษ์ สส. พระนครศรีอยุธยา จากบ้านใหญ่วังน้อย หลานยาย ‘สมทรง พันธ์เจริญวรกุล’ นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา 5 สมัย
- ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ สส. พิจิตร จากตระกูลภัทรประสิทธิ์ หลานชาย ‘ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์’ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และอดีต สส. พิจิตร 4 สมัย
ส่วนอีก 2 ตำแหน่ง คือ เหรัญญิกพรรค มี ‘ศุภมาส อิศรภักดี’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นคนคุมถุงเงิน และตำแหน่งนายทะเบียนพรรคตกเป็นของ ‘ไตรศุลี ไตรสรณกุล’ ลูกสาวของ ‘วิชิต ไตรสรณกุล’ นายก อบจ.ศรีสะเกษ 5 สมัย
กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ (จากซ้าย): เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ รองเลขาธิการพรรค, ภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค, บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรค, ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค, พิมพฤดา ตันจรารักษ์ รองเลขาธิการพรรค, วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ และ กรวีร์ ปริศนานันทกุล กรรมการบริหารพรรค โดยมีสโลแกน ‘พูดแล้วทำ’ อยู่ฉากหลัง
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอีก 6 คน
- กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง ลูกชายคนที่ 2 แห่งบ้านใหญ่ปริศนานันทกุล
- วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส. สตูล สมัยที่ 2
- ชลัฐ รัชกิจประการ สส. บัญชีรายชื่อ ลูกชาย ‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นาที รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้
- ธนยศ ทิมสุวรรณ สส. เลย ลูกชายคนเดียวของ ‘ธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ’ อดีตนายก อบจ.เลย 5 สมัย
- จักรกฤษณ์ ทองศรี สส. บุรีรัมย์ หลานชาย ‘ทรงศักดิ์ ทองศรี’ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- กิตติ กิตติธรกุล สส. กระบี่ ตัวแทนตระกูลกิตติธรกุล ซึ่งมี ‘สมศักดิ์ กิตติธรกุล’ นายก อบจ.กระบี่ 7 สมัย สายตรงเนวินเป็นผู้คุมพื้นที่
นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งทีมสื่อสารเพิ่มอีก 3 ตำแหน่ง คือ บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และ ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส. สงขลา เป็นโฆษกพรรค ส่วน ผกามาศ เจริญพันธ์ สส. สุรินทร์ นั่งรองโฆษกพรรค
โตด้วยผลงาน ไม่โตด้วย ‘กระแส’
อนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคภูมิใจไทยเติบโตขึ้นมาทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง เราค่อยๆ เติบโตขึ้นจากการทำงานหนักแลกกับคะแนนไว้วางใจที่ประชาชนได้มอบให้ พรรคภูมิใจไทยโตด้วย ‘ผลงาน’ ไม่โตด้วย ‘กระแส’ เราเป็นนักการเมือง มีจิตวิญญาณ และมีดีเอ็นเอที่พยายามอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน กรรมการบริหารพรรคชุดนี้คือผลผลิตของ ‘บ้านใหญ่’ ที่มีประสบการณ์และบารมี มีหลักการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เด็กฝึกงาน ผ่านการทดลองงานทางการเมือง ผ่านสนามเลือกตั้ง และเข้ามาทำหน้าที่ สส. ผ่านเส้นทางที่ยากที่สุดมาแล้ว ไม่ต้องสงสัยในเรื่องฝีมือ สามารถทำงานได้เลย
อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการปรับทัพกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
แน่นอน… หลังพรรคภูมิใจไทยได้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และได้ ‘ไชยชนก’ สายเลือดเนวินเข้ามานั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคแล้ว คำถามต่อมาที่ ‘อนุทิน’ หัวหน้าพรรคจะต้องตอบ คือการปรับคณะรัฐมนตรีเศรษฐาในอนาคตอันใกล้นี้จะมีชื่อไชยชนกหรือไม่
เนื่องจากประวัติส่วนตัวของไชยชนกที่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ก่อนหน้านี้ระบุว่าในเดือนกรกฎาคมนี้เขาจะมีอายุครบ 35 ปี ตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดคุณสมบัติบุคคลที่จะสามารถนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีได้
ไชยชนกได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันเขาอายุ 33 ปี ในเดือนกรกฎาคมนี้จะอายุครบ 34 ปีเท่านั้น ยังไม่สามารถนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีในเร็วๆ นี้ได้ ส่วน ‘อนุทิน’ ก็ไม่ได้ตอบปฏิเสธ โดยพูดเพียงว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อถึงเวลา”
ในอนาคต ‘ไชยชนก’ จะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ (ยังไม่มีใครรู้) แต่ที่รู้ก่อนอายุจะครบ 35 ปีตามรัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งเหลือเวลาอีก 1 ปี 4 เดือน ไชยชนกต้องเร่งโชว์ฝีมือ และพิสูจน์ผลงานการฟื้นฟูพรรค หากใช้ผลงานลบคำครหาล็อกตำแหน่ง ‘มีวันนี้เพราะพ่อให้’ ได้ จะทำให้ก้าวสู่เก้าอี้รัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดใน ครม.เศรษฐาได้อย่างสง่างาม