วันนี้ (10 พฤศจิกายน) เวลา 16.45 น. ที่กระทรวงการคลัง ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมชลประทานรายงานว่า สถานการณ์ล่าสุดของเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก มีปริมาณน้ำมากถึง 99% แล้ว
จากการประเมินพบว่าน้ำเข้าเขื่อนภูมิพลประมาณวันละ 90 ล้านลูกบาศก์เมตร และปล่อยออกขณะนี้อยู่ที่ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าหากยังคงมีน้ำเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นจากวันนี้ไปไม่เกิน 3 วัน ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลจะเต็มความจุ เป็นเหตุให้ต้องประเมินเพื่อระบายน้ำเพิ่มใน 2-3 วันที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในช่วงการประเมิน ซึ่งน้ำที่เขื่อนภูมิพลระบายมาทั้งหมดจะลงไปที่จังหวัดนครสวรรค์ และต่อเนื่องมาที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปัจจุบันระบายน้ำอยู่ที่ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่หากน้ำจากเขื่อนภูมิพลระบายลงมาเติม จะทำให้การระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยามากกว่าเดิม ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ใต้เขื่อนจะได้รับผลกระทบมากขึ้น ตั้งแต่จังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา จนถึงกรุงเทพมหานคร
ภราดรกล่าวต่อว่า หน่วยงานต่างๆ ทราบดีถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากมีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเกินกว่า 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยกรมชลประทานเสนอว่าจะระบายน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานด้านตะวันตกและตะวันออกเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมเพิ่มเติมมากขึ้น จึงต้องแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่เกษตรกรรมว่า ช่วง 2-3 วันนี้ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น อาจต้องระบายน้ำเข้าไปเก็บไว้ในทุ่งเพิ่มเติมมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ปริมาณน้ำไหลเข้าวันนี้และพรุ่งนี้ (11 พฤศจิกายน) คาดว่าจะลดลงเป็นลำดับ ทำให้สามารถลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์จากวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งจะทำให้น้ำที่จะไปเติมที่จังหวัดนครสวรรค์และเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ไม่เพิ่มขึ้นมากนัก จึงต้องประเมินสถานการณ์ช่วง 2-3 วันนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ รัฐบาล สนทช. และกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำที่มีปริมาณมากในรอบปีนี้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด
ทั้งนี้ ได้รับแจ้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้กับพี่น้องประชาชนแล้วกว่า 60-70% คาดว่าไม่เกินวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ จะชดเชยได้ครบ 100%
ภราดรยังกล่าวถึงข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี เรื่องการชดเชยเยียวยาเพิ่มเติมสำหรับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมมากกว่า 30 วัน และ 60 วัน ว่ารัฐบาลจะพิจารณาเพิ่มเติมตามลำดับ ซึ่งจะเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรุงเทพมหานครจะได้รับผลกระทบในกรณีที่เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำในระดับใด ภราดรกล่าวว่า ขณะนี้กรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เริ่มได้รับผลกระทบบ้างแล้ว แต่จากการประเมินพบว่า สถานการณ์ไม่น่ารุนแรงเหมือนปี 2554 เพราะปีดังกล่าวมีปริมาณน้ำมากกว่า และเกิดอุบัติเหตุที่คลองบางโฉมศรี จังหวัดสิงห์บุรี ทำให้ไม่สามารถควบคุมทิศทางน้ำได้ ขณะที่ปีนี้ยังไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้น และรัฐบาลพยายามควบคุมไม่ให้เกิดขึ้น
สำหรับปัจจัยน้ำทะเลหนุน กรมอุทกศาสตร์แจ้งว่าหลังจากนี้ปริมาณน้ำทะเลหนุนจะลดลงเรื่อยๆ ซึ่งจะช่วยให้การระบายน้ำคล่องตัวมากขึ้น ส่วนโอกาสที่จะต้องระบายน้ำถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีหรือไม่ ยังต้องรอประเมินตามปริมาณน้ำเหนือเขื่อนภูมิพลในช่วง 2-3 วันนี้
ส่วนปัญหาการระบายน้ำที่ขณะนี้มีประชาชนทะเลาะกัน ภราดรกล่าวว่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด เข้าใจว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบต่อการดำรงชีวิต จึงได้สั่งให้กรมชลประทานรับทราบและจัดการระบายน้ำอย่างสมดุล โดยจะเชิญทั้งสองฝ่ายมาเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน แบ่งเบาความเดือดร้อน ไม่ให้พื้นที่ใดรับภาระเพียงฝ่ายเดียว ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันเพื่อบรรเทาผลกระทบให้มากที่สุด






