เมื่อวานนี้ (9 ตุลาคม) พ.จ.ท. อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ทั้งทหารป้องกันชายแดน ตํารวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครอง ได้สนธิกําลังออกลาดตระเวนเส้นทางธรรมชาติ ตามแนวกำแพงชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว และป้องกันแรงงานไทยในประเทศมาเลเซียอาจจะหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่ผ่านการตรวจโควิด-19 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
.
โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 375 คน ส่วนใหญ่ที่รัฐซาบาห์ ศูนย์กลางของการระบาดระลอกที่สองจำนวน 271 คน ตามด้วยรัฐเซลังงอร์ 36 คน และรัฐเคดาห์ 16 คน ทั้งนี้มีผู้ป่วยขั้นวิกฤตอยู่ในห้องไอซียู 60 คน และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 20 คน จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 14,368 คน และวันนี้วันเดียวมีผู้เสียชีวิต 5 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 146 คน
.
ด้านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้แจ้งเตือนชาวไทยที่อาศัยในมาเลเซียเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ว่า รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศใช้มาตรการการสัญจรแบบมีเงื่อนไข (CMCO) ใน 4 พื้นที่ ได้แก่ Sandakan, Papar, Tuaran ในรัฐซาบาห์ และ Klang รัฐสลังงอร์ ตั้งแต่วันที่ 9-22 ตุลาคมนี้ เป็นเวลา 14 วัน โดยห้ามการเข้า-ออกในพื้นที่ดังกล่าว ยกเว้นกรณีมีเหตุจำเป็นและอนุญาตให้ธุรกิจที่มีความสำคัญ/จำเป็นเท่านั้น อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ร้านอาหาร โรงงาน เปิดทำการได้ระหว่างเวลา 06.00-18.00 น. ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้นั่งรับประทานที่ร้านอาหาร
สถานเอกอัครราชทูตจึงขอให้คนไทยที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยขอให้อยู่ในที่พักไม่เดินทางออกจากที่พักหากไม่จำเป็น รักษาความสะอาดโดยการล้างมือบ่อยๆ รวมถึงให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรการของทางการมาเลเซียอย่างเคร่งครัด
สำหรับคนไทยที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศไทยทางบกผ่านช่องทางด่านที่กำหนด ได้แก่ ด่านบูกิตกายูฮิตัม (Bukit Kayu Hitam) – ด่านสะเดา, ด่านรันเตาปันจัง (Rantau Panjang)-ด่านสุไหงโก-ลก, ด่านวังเกลียน (Wang Kelian)-ด่านวังประจัน และด่านบูกิตบือราปิต (Bukit Berapit)-ด่านเบตง ยังสามารถเดินทางไปยังด่านที่เกี่ยวข้องได้ตามปกติ
ทั้งนี้ในกรณีการเดินทางไปยังด่านบูกิตกายูฮิตัม สามารถเดินทางโดยรถส่วนบุคคลโดยใช้ถนนหลวง (Highway) ตรงไปยังด่านฯ โดยไม่แวะพักที่เมืองข้างเคียง หรือเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ เช่น จากสถานี TBS กรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังเมืองจังโหลน (Changlun) แล้วต่อรถแท็กซี่ไปยังด่านดังกล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า