เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ เริ่มต้นปราศรัยหาเสียงครั้งแรกในนิวยอร์กและชิคาโกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ประกาศตัวเป็นหนึ่งในแคนดิเดตพรรคเดโมแครตเพื่อลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2020 โดยเขาชูนโยบายแก้ปัญหาการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในสังคมอเมริกัน และเดินหน้า ‘ปฏิวัติการเมือง’ ด้วยแนวคิดฝ่ายซ้าย หรือสังคมนิยม
ในการปราศรัยที่บรูกลิน นครนิวยอร์ก ซิตี้ แซนเดอร์ส วัย 77 ปี เรียกโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเป็นประธานาธิบดีที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
“ผมไม่มีพ่อที่ให้เงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อสร้างตึกระฟ้าหรูหรา คาสิโน และสนามกอล์ฟ แต่ผมมีบางสิ่งที่มีคุณค่ากว่า ผมมีพ่อที่เป็นแบบอย่างที่ดี เขามีความกล้าหาญอย่างเหลือเชื่อในการเดินทางข้ามมหาสมุทรโดยที่ไม่มีเงินในกระเป๋าเลย เพื่อมาตั้งต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่า”
ทั้งนี้แซนเดอร์สและทรัมป์มีภูมิหลังที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้จะเกิดในนิวยอร์กเหมือนกัน โดยแซนเดอร์สเป็นบุตรของผู้อพยพชาวยิวที่มีอาชีพเป็นคนขายสี ขณะที่ทรัมป์ เกิดในครอบครัวเศรษฐีซึ่งเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
แซนเดอร์สให้คำมั่นกับกลุ่มผู้สนับสนุนว่า หากเขาได้เป็นประธานาธิบดี เขาจะทำให้ชาวอเมริกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นอกจากนี้เขายังกล่าวโจมตีกลุ่มธุรกิจที่ละโมบ และชนชั้นคนรวยระดับอภิมหาเศรษฐีในสหรัฐฯ ด้วย
สำหรับนโยบายเด่นๆ ของแซนเดอร์สในด้านแรงงานนั้น ประกอบด้วยการสร้างหลักประกันว่าชาวอเมริกันทุกคนจะมีงานทำ และจะปรับเพิ่มฐานค่าแรงขั้นต่ำขึ้นสองเท่า จาก 7.25 เหรียญสหรัฐ เป็น 15 เหรียญสหรัฐต่อชั่วโมง
ในนโยบายด้านการศึกษา แซนเดอร์สจะผลักดันให้นักศึกษามหาวิทยาลัยและวิทยาลัยได้ศึกษาจนจบโดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน
ส่วนนโยบายด้านผู้อพยพที่ได้รับการจับตาอย่างกว้างขวางนั้น แซนเดอร์สจะผลักดันกฎหมายปฏิรูประบบการอพยพเข้าเมืองอย่างครอบคลุม โดยจะอนุญาตให้ผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารหลายแสนคนสามารถอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ได้ต่อไป
ขณะที่นโยบายด้านสวัสดิการสังคมนั้น เขารับปากว่าจะปฏิรูประบบประกันสุขภาพ เพื่อให้ชาวอเมริกันทุกคนได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึง ซึ่งจะเห็นได้ว่า นโยบายส่วนใหญ่ของแซนเดอร์สจะมีลักษณะประชานิยม
นอกจากนี้เขายังให้คำมั่นว่าจะต่อสู้เพื่อความยุติธรรมทางเศรษฐกิจ สังคม เชื้อชาติ และสิ่งแวดล้อม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: