นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องเศร้าของวงการฮอลลีวูด เมื่อผู้กำกับรุ่นใหญ่วัย 77 ปี เบอร์นาโด แบร์โตลุคชี เจ้าของผลงานขึ้นหิ้ง The Last Emperor (1987) เสียชีวิตอย่างสงบในบ้านพัก ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งมาเป็นเวลาหลายปี
เบอร์นาโด แบร์โตลุคชี เกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 1941 เริ่มมีความสนใจด้านงานศิลปะจากการเขียนบทกวีตามรอยคุณพ่อที่เป็นกวีและนักวิจารณ์ภาพยนตร์ โดยเขาเริ่มต้นงานในวงการภาพยนตร์จากการเป็นผู้ช่วยผู้กำกับของ ปิแอร์ เปาโล พาโซลินี ในเรื่อง Accattone (1961) และใช้เวลาเพียง 1 ปีในการสร้างชื่อในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์เต็มตัวจากเรื่อง The Grim Reaper (La Commare Secca) ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่ 22 ปีเท่านั้น
หลังจากนั้น เบอร์นาโด แบร์โตลุคชี ก็ค่อยๆ สร้างผลงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 1967-1972 เขามีผลงานออกมาอย่างน้อยปีละ 1 เรื่อง โดยมีผลงานอย่าง The Conformist และ Last Tango in Paris ที่ทำให้ชื่อของเขาเป็นรู้จักในวงกว้างมากขึ้นในฐานะผู้กำกับที่มีความ ‘กล้า’ ในการหามุมมองใหม่ๆ เพื่อทำลายขีดจำกัดเดิมๆ ในการสร้างภาพยนตร์
ทั้งยังถูกจัดให้อยู่ในหมวดผู้กำกับรุ่นใหม่ที่น่าจับตาร่วมกับ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา, มาร์ติน สกอร์เซซี และ สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่ล้วนเติบโตขึ้นมาเป็นผู้กำกับที่ทรงอิทธิพลแห่งวงการภาพยนตร์ในเวลาต่อมา
จนในปี 1984 ที่ภาพยนตร์ The Last Emperor ออกฉาย ทุกคนในวงการภาพยนตร์ต้องยอมรับให้กับความกล้าเกินขีดจำกัดของเขา ตั้งแต่การเลือกหยิบเรื่องราวของ ปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีน ที่ไกลตัวชาวตะวันตกแบบคนละฝั่งวัฒนธรรม และยังเป็นภาพยนตร์ที่มีความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง (ในปี 1976 เขากำกับเรื่อง Tango ที่มีความยาว 5 ชั่วโมง! มาแล้ว) แถมยังร่วมมือกับ ริวอิจิ ซากาโมโตะ คอมโพสเซอร์ชาวญี่ปุ่น สร้างสรรค์เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ขึ้นแท่นคลาสสิกตลอดกาลอย่าง First Coronation, The Last Emperor หรือ Rain (I Want a Divorce) ออกมา
ชื่อของ เบอร์นาโด แบร์โตลุคชี ได้กลายเป็นบันทึกสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ เมื่อ The Last Emperor กวาดรางวัลออสการ์ประจำปีนั้นทุกสาขาที่ส่งเข้าชิง รวมทั้งหมด 9 รางวัล คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม, กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม, กำกับภาพยอดเยี่ยม, ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม และดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้แบบไร้ข้อกังขา และทำให้เขาเป็นผู้กำกับชาวอิตาลีเพียงคนเดียวที่คว้าตุ๊กตาทองมาครองได้สำเร็จ
รวมทั้งได้รับรางวัลเกียรติยศปาล์มทองคำจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ประจำปี 2011 เป็นรางวัลที่มอบให้กับบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในวงการภาพยนตร์ ก่อนจะปิดท้ายการเป็นผู้กำกับเต็มเรื่องด้วยภาพยนตร์เรื่อง Me and You ในปี 2012 และเข้าสู่ช่วงพักรักษาตัวเพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็ง จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: