×

BEM รายงานปริมาณจราจรบนทางด่วนและผู้โดยสาร MRT เดือน ก.ย. ฟื้นตัว MoM ด้านแนวโน้มผลประกอบการจะฟื้นตัวใน 4Q64

11.10.2021
  • LOADING...
BEM

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวานนี้ (10 ตุลาคม 2564) บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) รายงานปริมาณจราจรบนทางด่วนในเดือนกันยายน ที่ 784,000 เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 32% MoM แต่ลดลง 32% YoY ปริมาณจราจรบนทางด่วนที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง MoM สะท้อนถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลทำให้ปริมาณจราจรบนทางด่วนใน 9M64 อยู่ที่ 805,000 เที่ยวต่อวัน ลดลง 21.5%YoY โดย BEM ระบุว่าปริมาณจราจรบนทางด่วนปรับขึ้นสู่ 956,000 เที่ยวต่อวันในช่วงต้นเดือนตุลาคม 

 

ขณะที่จำนวนผู้โดยสาร MRT อยู่ที่ 100,000 เที่ยวต่อวันในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 60%MoM แต่ลดลง 68%YoY จำนวนผู้โดยสาร MRT ใน 9M64 อยู่ที่ 137,000 เที่ยวต่อวัน ลดลง 45%YoY โดยจำนวนผู้โดยสาร MRT แตะระดับ 144,000 เที่ยวต่อวันในช่วงต้นเดือนตุลาคม

 

กระทบอย่างไร:

วันนี้ (11 ตุลาคม 2564) ราคาหุ้น BEM ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.55%DoD สู่ระดับ 9.00 บาท เช่นเดียวกันกับ SET Index ที่ปรับตัวลง 5.97 จุด หรือลดลง 0.36%DoD สู่ระดับ 1,633.44 จุด 

 

มุมมองระยะสั้น:

SCBS คาดว่า BEM จะรายงานกำไรสุทธิ 123 ล้านบาทใน 3Q64 ลดลง 38.6%QoQ และ 85%YoY แม้ปริมาณจราจรบนทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ใน 3Q64 ลดลงสู่ 61.4 ล้านเที่ยว (ลดลง 12.4%QoQ และลดลง 41.2%YoY) และ 7.3 ล้านเที่ยว (ลดลง 32.4%QoQ และลดลง 72%YoY) ตามลำดับ แต่เงินปันผลรับจาก บมจ.ทีทีดับบลิว (TTW) จำนวน 220 ล้านบาท และการลดต้นทุนจะช่วยสนับสนุนกำไรสุทธิ รายได้จากธุรกิจทางด่วนน่าจะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 7.3%QoQ และ 39.5%YoY โดยรายได้จากธุรกิจระบบรางจะอยู่ที่ 703 ล้านบาท ลดลง 12.2%QoQ และ 41.9%YoY 

 

ต้นทุนขายทั้งหมดคาดว่าจะลดลง 10.1%QoQ และ 23.5%YoY สู่ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจาก SCBS คาดว่าจะเห็นค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาทางด่วนลดลงบ้างท่ามกลางปริมาณจราจรระดับต่ำ นอกจากนี้ SCBS ยังคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะลดลง 3.6%QoQ และ 11.9%YoY สู่ 274 ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากมาตรการควบคุมต้นทุน โดยรวมแล้วกำไรสุทธิ 9M64 น่าจะคิดเป็นสัดส่วน 57% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 โดย BEM จะประกาศผลประกอบการวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564

 

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 ของ BEM SCBS คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะทางด่วน เมื่อคนเริ่มกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ (แม้ยังไม่เต็มที่) และโรงเรียนน่าจะเปิดให้กลับเข้าเรียนตามปกติ ทั้งนี้ความเสี่ยงจากการประกาศล็อกดาวน์อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากในกรุงเทพฯ มีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนที่ดี

 

นอกจากนี้ต้องติดตามการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกซึ่ง รฟม. คาดว่าจะเปิดจำหน่ายเอกสารสำหรับคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (RFP) ในเดือนตุลาคม 2564 และคาดว่าจะทราบผลผู้ชนะการประมูลในเดือนเมษายน 2565

 

มุมมองระยะยาว:

ในระยะกลางถึงยาวผลประกอบการของ BEM ยังได้ปัจจัยสนับสนุนจากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้จำนวนผู้โดยสารโดยรวมในระบบรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ SCBS เชื่อว่าประชาชนจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม โดยหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด ขณะที่ความเสี่ยงสำคัญของ BEM คือเทรนด์การทำงานที่บ้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณจราจรบนทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT ในระยะยาว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising