เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องคดีที่บีทีเอสยื่นฟ้อง รฟม. สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ TOR คดีนี้เป็นคดีสุดท้ายที่เหลืออยู่สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คำพิพากษานี้หมายความว่า รฟม. เป็นผู้ชนะคดีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อ BEM ด้วยเช่นกัน
โดยหลังจากนี้ InnovestX Research เชื่อว่ากระบวนการต่อไปคือ การส่งโครงการนี้ให้ ครม. พิจารณาอนุมัติก่อนเซ็นสัญญา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นใน 2H67 พัฒนาการดังกล่าวเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ว่า คดีฟ้องร้องโครงการนี้จะได้ข้อสรุปในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม
ซึ่งประเมินว่าโครงการนี้จะหนุนให้มูลค่าของ BEM ปรับเพิ่มขึ้นได้อีก 1.5 บาทต่อหุ้น นอกจากนี้ คาดว่าจะเห็นนักวิเคราะห์ในตลาดปรับราคาเป้าหมายของ BEM เพิ่มขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าราคาเป้าหมาย Consensus ยังไม่ได้สะท้อน Upside ทั้งหมดจากโครงการนี้
สำหรับผลการดำเนินงานใน 2Q67 คาดกำไรจะเติบโต QoQ และ YoY อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำไรที่เติบโต QoQ จะได้รับการสนับสนุนจากรายได้เงินปันผลจาก CKP (BEM ถือหุ้น 16.8%) และ TTW (18.5%) ในขณะที่กำไรที่เติบโต YoY จะได้แรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสาร MRT ที่เพิ่มขึ้น ในเดือนพฤษภาคม BEM รายงานปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนเฉลี่ย 1.1 ล้านเที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 1% MoM และ 0.5%YoY ส่งผลทำให้ปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนเฉลี่ย 5 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 1.1 ล้านเที่ยว ลดลง 0.1%YoY เทียบกับสมมติฐานที่คาดว่าปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนจะอยู่ในระดับทรงตัวในปี 2567
สำหรับ MRT (สายสีน้ำเงิน) จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 387,400 เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.8%MoM และ 12.3%YoY ส่งผลทำให้จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 5 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 412,000 เที่ยว เพิ่มขึ้น 13.4% เทียบกับประมาณการปี 2567 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15% โดยรวมแล้วเชื่อว่าสมมติฐานปริมาณจราจรดังกล่าวยังคงสมเหตุสมผล
นอกจากนี้ อ้างอิงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า BEM มีปริมาณการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนอยู่ 255 ล้านหุ้น (1.7% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และเท่ากับปริมาณการซื้อขาย 7 วัน) ณ วันที่ 11 มิถุนายน โดยมีสถานะขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนสูงเป็นอันดับ 7 พัฒนาการเชิงบวกนี้อาจทำให้มีการทำ Short Covering และจะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น BEM ปรับขึ้น 4.52% สู่ระดับ 8.10 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 1.62% สู่ระดับ 1,316.69 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2567:
ราคาหุ้น BEM ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 5.2% นับตั้งแต่มีข่าวว่าศาลปกครองสูงสุดจะอ่านคำพิพากษาคดีรถไฟฟ้าสายสีส้มในวันที่ 12 มิถุนายน และปรับตัว Outperform SET อยู่ 6.4% InnovestX Research เชื่อว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นต่อ โดยได้แรงหนุนจากพัฒนาการเชิงบวกต่อเนื่องสำหรับโครงการนี้ เช่น ครม. อนุมัติ และมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Double Deck ที่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นใน 2H67 ซึ่งจะส่งผลดีต่อ BEM ดังนั้นหากราคาหุ้นปรับฐานหลังคำพิพากษาจะเปิดโอกาสให้เข้าซื้อ
InnovestX Research คงคำแนะนำ Outperform สำหรับ BEM โดยปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี SOTP ใหม่เป็น 10.5 บาทต่อหุ้น (8.2 บาทต่อหุ้น สำหรับธุรกิจหลัก, 1.5 บาทต่อหุ้น สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ 0.8 บาทต่อหุ้น สำหรับเงินลงทุนใน TTW และ CKP) จาก 9.0 บาทต่อหุ้น โดยรวมโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้ามาไว้ในราคาเป้าหมายดังกล่าวแล้ว
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนฟื้นตัวช้าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญสำหรับ BEM คือความปลอดภัยในการเดินทางของผู้ใช้ทางด่วน และผู้โดยสาร MRT