“ถ้าบอกว่าความรักมันซับซ้อนยิ่งกว่าหนังสือยากๆ ทุกเล่มบนโลกรวมกัน คุณจะเห็นด้วยไหม?”
สิ้นสุดการรอคอยกับอีกหนึ่งโปรเจกต์ซีรีส์แนว Girl Love ที่มีกระแสถูกพูดถึงมาอย่างต่อเนื่อง และมีผู้คนรอติดตามอยู่เป็นจำนวนมากทั้งในและนอกประเทศอย่าง Be Mine the Series จากค่าย IS Entertainment ที่สร้างขึ้นจากจักรวาลนิยายของนักเขียนนามปากกา คุณผู้หญิง โดยได้ปล่อย Prologue อย่างเป็นทางการของซีรีส์ออกมาให้ได้รับชมพร้อมกันทั่วโลกไปเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา
Be Mine the Series ประกอบไปด้วยเรื่องราวความรักของหญิงสาวทั้งหมด 4 คู่ ซึ่งตัวละครในแต่ละเรื่องเองก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งอายุ หน้าที่การงาน ฐานะ และอุปสรรคต่างๆ ในความรัก แต่พวกเธอทั้งหมดกลับมีความข้องเกี่ยวกันทั้งในฐานะเพื่อน ผูกพันทางสายเลือด และในรูปแบบของคนรู้จัก จนเกิดเป็นจักรวาลซีรีส์ชุดนี้ที่แบ่งแยกย่อยออกมาได้ทั้งหมด 4 เรื่อง 4 รสชาติ ได้แก่ More & More, Be My Baby, Be My Sugar และ Be My Boo
Prologue ของ Be Mine the Series เปิดฉากด้วยบรรยากาศในร้านกาแฟของ พีค (น้ำหอม-อัจฉรียา แตงจุ้ย) ที่เรียกได้ว่ากำลังจะกลายเป็นสถานที่เริ่มต้นสำหรับทุกความสัมพันธ์ของเหล่าหญิงสาวทั้ง 9 คน จากเรื่องราวความรัก 4 รูปแบบของพวกเธอ
จักรวาลความรักรูปแบบแรก More & More กับเรื่องราวการแอบรักที่ว่าด้วยเรื่องของ ตะวัน (ออมสิน-สุพิทชา ลิ้มสมมุติ) ที่แอบมีใจให้กับ วินนี่ (โฟล์ค-สุธิมา ก่อเกียรติวนิช) มาตั้งแต่สมัยมัธยมศึกษา ทว่าเธอกลับไร้ซึ่งความกล้าที่จะเดินหน้าเข้าหาวินนี่ จึงทำได้แค่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปจนถึงวันที่ทั้งคู่เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งโชคชะตากลับจับพลัดจับผลูให้ตะวันได้กลายเป็นรูมเมตกับวินนี่อย่างไม่คาดคิด จากการที่ครอบครัวของทั้งคู่นั้นรู้จักกัน
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ตะวัน”
ความใกล้ชิดของพวกเธอที่มากขึ้นจากการได้อาศัยอยู่ร่วมห้องกัน ทำให้พวกเธอรู้จักกันด้วยความสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะพาให้เหล่าแฟนซีรีส์ได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกันว่า ตะวันจะสามารถแปรเปลี่ยนความรู้สึกเหล่านี้ให้กลายเป็นความกล้าในการสารภาพความรู้สึกภายในใจของเธอที่เก็บมาอย่างเนิ่นนานให้วินนี่ได้รับรู้ หรือจะยังคงเก็บไว้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
ต่อกันที่จักรวาลของความรักที่มีเรื่องราวของ Age Gap เข้ามาเป็นส่วนเกี่ยวข้องอย่าง Be My Baby เรื่องราวของนักศึกษามหาวิทยาลัย เจ้าเจ (ป๊อปปี้-ปาลิตา วิศิษฏ์ศักดิ์) ที่ถูกผู้เป็นพ่อฝากฝังให้ไปฝึกงานเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงาน เพื่อมาช่วยงานพ่อของเธอในอนาคต กับการเข้าไปเป็นผู้ช่วยของ สิตางศุ์ หรือ คุณสิ (ปุยฝ้าย-นัยน์ปพร ประเสริฐศรี) ในบริษัทของเธอ
เจ้าเจมีความสนใจในตัวคุณสิตั้งแต่แรกพบ ก่อนจะได้ร่วมเรียนรู้งานและรู้จักกับตัวตนของผู้ที่มีบทบาทเป็นเจ้านายของเธอมากขึ้น แต่ด้วยความแตกต่างกันในหลายๆ ด้านของทั้งคู่ รวมถึงในเรื่องใหญ่อย่างช่วงอายุที่ต่างกัน จะสามารถทำให้เธอสมหวังในความรักและก้าวข้ามทุกอุปสรรคไปได้หรือไม่
Be My Sugar จักรวาลความรักลำดับถัดมา กับเรื่องราวความรักของเหล่าหญิงสาวในวัยทำงาน ทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัย พิพิมพ์ (เฟิร์น-จีรวรรณ คำจินะ) และนักธุรกิจสาว พีรญา หรือ เพิร์ธ (ฟ้าใส-มิญญาดา บุญทรัพย์) ที่ทั้งคู่มีความจำเป็นต้องมาสนิทสนมกันด้วยผลประโยชน์บางอย่าง จากคำแนะนำของสิตางศุ์ผู้เป็นเพื่อนสนิทของพิพิมพ์
“ฉันต้องการให้คุณมาเป็นแฟนชั่วคราวค่ะ”
ข้อเสนอของพีรญาที่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้เป็นพ่อของพิพิมพ์ ซึ่งกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือพิพิมพ์จะต้องมาเป็นแฟนสาวของเธอชั่วคราว อันก่อให้เกิดความรู้สึกพิเศษของทั้งคู่ที่มีให้แก่กัน พร้อมกับปัญหาและอุปสรรคทางความรักต่างๆ ที่พวกเธอต้องช่วยกันแก้ไข
“คุณเคยบอกเลิกใครทั้งที่ยังรักอยู่ไหม”
จักรวาลท้ายสุดของ Be Mine the Series กับเรื่องราวของคู่แฟนเก่าที่จบกันไปได้นับปี แต่ภายในใจยังคงมีความรู้สึกดีๆ หลงเหลือให้กันอย่าง Be My Boo เมื่อ พะพาย (มิว-ธัญทิพย์ ทวีสินธนัตย์) ได้บอกเลิกกับอดีตคนรักอย่าง เจ้าขา (หนิงหนิง-มาริกา แพร่เกียรติเจริญ) ด้วยเหตุผลที่ไม่อยากให้แฟนของเธอรับมือกับการที่พ่อของเธอจะกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ไม่ได้หมดรักหรือเบื่อหน่ายกัน และอยากเลิกรากันแม้แต่น้อย
ด้วยความตั้งใจที่จะขอโอกาสอีกสักครั้งในการกลับมาคืนดีกับเจ้าขา จะสามารถทำให้อดีตคนรักแปรเปลี่ยนกลับมากลายเป็นคนรักอีกครั้งได้หรือไม่ ด้วยเจ้าขาเองก็มีความเสียใจไม่น้อยยามที่ถูกบอกเลิก และพะพายเองที่พร้อมแล้วที่จะลุกขึ้นสู้อีกครั้งเพื่อความรักของทั้งคู่ในครั้งนี้
Be Mine the Series จึงนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ซีรีส์ที่น่าจับตาและเฝ้ารอติดตาม ด้วยเนื้อหาของซีรีส์ที่มีความหลากหลายและครบถ้วนทุกรสชาติ อีกทั้งยังสร้างขึ้นจากนิยายที่มีผู้ติดตามและมีแฟนนิยายจำนวนมากเช่นกัน จึงเป็นส่วนช่วยผลักดันให้มีผู้คนมากมายที่คาดหวัง และรอคอยที่จะได้รับชมเรื่องราวบทสรุปของทุกความสัมพันธ์อันซับซ้อนในโปรเจกต์ Be Mine the Series โดยแฟนๆ ทุกคนสามารถรอติดตามรับชมซีรีส์ได้ภายในปี 2566
ชม Be Mine the Series | OFFICIAL PROLOGUE ได้ที่นี่:
ภาพ: IS Entertainment
