การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Care) และการแพทย์เฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) เป็นสองหัวข้อที่ถูกพูดอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์แห่งอนาคต โดยมีจุดประสงค์ที่ต้องการพัฒนาให้ระบบสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพตอบโจทย์กับโลกที่มีความเสี่ยงต่อ ‘โรค’ ต่างๆ มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและการแพทย์เฉพาะบุคคล มีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลของจำนวนข้อมูลที่มหาศาลและความสามารถในการดึงข้อมูลสำคัญออกมาเป็นอินไซต์ แต่ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนเกม
MarketsandMarkets บริษัทวิจัยการตลาด ออกรายงานที่เผยว่า มูลค่าตลาดของ AI ในอุตสาหกรรมการแพทย์จะถึง 67,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2027 หรือพุ่งขึ้นราว 10 เท่าจากตัวเลขในปี 2021
เพื่อคว้าโอกาสดังกล่าว บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ประกาศร่วมลงทุนใน CARIVA (แคริว่า) บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการแพทย์ของไทย ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ Medical Large Language Models (Medical LLMs) เป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อพัฒนาต่อยอดกระบวนการตรวจสุขภาพทางห้องปฏิบัติการ (Lab Interpretation Solution) ในการแปลผลวิเคราะห์และให้ข้อมูลการตรวจแล็บที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาโรคของผู้ป่วย ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ช่วยแพทย์
โดยในปัจจุบัน BDMS นำ AI ดังกล่าวมาปรับใช้ในแนวทางค้นหาเชิงป้องกันกับคนที่มีสุขภาพดี ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ Sandbox ของ BDMS เพื่อตรวจคัดกรองความผิดปกติเบื้องต้น วิเคราะห์ข้อมูลผลตรวจของแต่ละบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และรักษา ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา BDMS ให้ทุนสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพไปแล้ว 4 แห่ง และร่วมพัฒนานวัตกรรมกับสตาร์ทอัพในไทย จนปัจจุบันมีนวัตกรรม 7 โครงการที่พัฒนาขึ้นใหม่ถูกนำไปใช้งานได้จริงแล้ว
ดร.พัชรินทร์ บุญยะรังสรรค์ ผู้ช่วยประธานฝ่ายนวัตกรรมองค์กรยั่งยืน บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา BDMS ได้ดำเนินแผนการลงทุนในนวัตกรรมใหม่ 1,500 ล้านบาท ในรูปแบบการสนับสนุนเงินลงทุนระดับ Series A ร่วมกับสตาร์ทอัพไทย โดยมีนวัตกรรมที่นำไปใช้งานแล้ว ได้แก่ โครงการ Perceptra ที่ใช้ AI อ่านผลเอ็กซเรย์สำหรับผู้ช่วยรังสีแพทย์ โครงการ Mineed หรือเข็มเล็กละลายใต้ชั้นผิว (Microneedle) ที่ช่วยนำยาเข้าสู่ร่างกาย
รวมถึงแอปพลิเคชัน ooca สำหรับปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยาแบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังมี BeDee แอปพลิเคชันสำหรับพบแพทย์และเภสัชกรแบบทางไกล หรือ Telehealth และ Telepharmacy รวมถึงการสั่งยา (Telemedicine) ซื้อหาสินค้าเวชภัณฑ์ (Health Mall) และศูนย์ข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพ (Health Content) ซึ่งจะช่วยให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการด้านการแพทย์ได้สะดวกยิ่งขึ้น
จนมาที่การลงทุนล่าสุดคือ CARIVA ปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ (AI ทางการแพทย์) ช่วยในการวิเคราะห์โรคเฉพาะบุคคล
สำหรับ Medical LLMs ภายใต้ CARIVA จะมาในชื่อ PreceptorAI แชตบอตด้านการแพทย์ผ่านแอปพลิเคชัน LINE ซึ่งเปิดใช้บริการตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ทำหน้าที่เสมือนที่ปรึกษาและผู้ช่วยตัดสินใจ ซึ่งตั้งแต่เปิดใช้งานจนถึงปัจจุบัน แพทย์กว่า 10,000 คนได้ใช้ตรวจผู้รับบริการแล้วกว่า 300,000 ราย
ศิวดล มาตยากูร ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท แคริว่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า CARIVA ได้ต่อยอดนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ให้มีรูปแบบเสมือนผู้ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ เช่น Lab Interpretation Solution, ASR (Automatic Speech Recognition) การบันทึกและตรวจความถูกต้องของข้อมูลคำสั่งทางการแพทย์แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยในการบันทึกข้อมูลทางการแพทย์ให้ถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมลดภาระงานด้านเอกสารด้วย
มากไปกว่านั้นยังมี Symptom Checker ซึ่งเป็น AI ในรูปแบบแชตบอต เพื่อประเมินอาการและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโรค โดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของ CARIVA ประกอบกับความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางการแพทย์ จะเข้ามาพัฒนาการบริการทางการแพทย์ของ BDMS และทางบริษัทก็พร้อมขยายสู่โรงพยาบาลชั้นนำในต่างประเทศต่อไป
ณรงค์ชัย ลิมป์ปิยาภิรมย์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท แคริว่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า โครงการ Lab Interpretation ภายใต้ Sandbox ได้มีการทดลองใช้ ณ Health Design Center ในพื้นที่โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่แล้ว พร้อมเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพในรูปแบบดิจิทัลผ่าน BeDee Health Ecosystem Platform ให้คนไข้เข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ ทุกเวลา รวมถึงสามารถเข้ารับบริการทางด้านสุขภาพ ได้แก่ การปรึกษาทางการแพทย์ ผ่าน Teleconsultation การบริการส่งยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นผ่าน Telepharmacy และ Health Mall
การลงทุนครั้งนี้ของ BDMS ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะเข้ามาเสริมระบบสาธารณสุขไทย โดยเฉพาะเมื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพกำลังถูกผลักดันจากภาครัฐให้กลายเป็นหนึ่งจักรกลทางเศรษฐกิจ การเข้ามาของเทคโนโลยี AI สำหรับวิเคราะห์โรคเฉพาะบุคคลจาก Medical LLMs รายแรกของเอเชียก็กำลังส่งสัญญาณให้ชาติอื่นๆ เห็นว่า ไทยนั้นจริงจังกับการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ