เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้ทำพรีวิวผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ซึ่งคาดว่าจะประกาศวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ที่จะถึงนี้
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BDMS ปรับตัวลง 10.8% จากเดือนก่อนหน้าสู่ระดับ 18.10 บาท โดยได้รับปัจจัยกดดันจากความกังวลเรื่องที่แพทย์และผู้ป่วยจะมีการย้ายไปยังโรงพยาบาลเอกชนเปิดใหม่ ขณะที่ SET Index ปรับตัวลง 6.5% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 1,205.23 จุด
(ข้อมูล ราคาปิด วันที่ 20 ตุลาคม 2563 เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS มองว่าแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังของ BDMS จะฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 2563 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ที่ถูกอั้นไว้ (Pent-up Demand) จากผู้ป่วยไทยหลังจากการผ่อนปรนล็อกดาวน์
ขณะที่ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะฟื้นตัวช้ากว่า เนื่องจากการกลับมาเปิดประเทศอย่างระมัดระวังของไทย โดย SCBS คาดว่า BDMS จะรายงานกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 3 นี้ที่ 1.6 พันล้านบาท ลดลง 45.2% จากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 246% จากไตรมาสก่อนหน้า
โดยจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในไตรมาส 3/63 จะหดตัวลง 17% จากปีที่แล้ว ซึ่งดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ลดลงถึง 27% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัว 83% ของระดับก่อนโควิด-19
สำหรับความกังวลด้านการย้ายแพทย์และผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งใหม่ SCBS เชื่อว่า ‘ผลกระทบมีจำกัด’ เนื่องจากโครงสร้างรายได้ของ BDMS มีการกระจายตัวมากในเครือข่ายของโรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลกรุงเทพสำนักงานใหญ่ ซึ่งสร้างรายได้มากสุดให้แก่ BDMS มีสัดส่วน 17% ของรายได้ปี 2562 รวมถึง BDMS ยังมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์ระหว่างโรงพยาบาลกับแพทย์
มุมมองระยะยาว:
ในระยะยาวยังคงต้องจับตาการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักให้จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับการรักษาในไทยฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงต้องติดตามความคืบหน้าความร่วมมือกับ Ping An Health โดยเบื้องต้น BDMS ได้ตั้งเป้าให้บริการลูกค้าจาก Ping An Health จำนวน 1,000-4,000 รายต่อปี ด้วยรายได้ 1-2 พันล้านบาทต่อปี ซึ่งจะช่วยหนุนให้สัดส่วนผู้ป่วยชาวจีนเพิ่มขึ้นสู่ 2-5% จาก 1% ในปัจจุบัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์