×

BCH – โอกาสลงทุนจากการฟื้นตัวของกำไร

09.03.2025
  • LOADING...
กราฟแสดงการฟื้นตัวของกำไรหุ้น BCH บางกอก เชน ฮอสปิทอล ในปี 2568

เกิดอะไรขึ้น:

ภาพรวมการประชุมนักวิเคราะห์ สำหรับ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 โทนเป็นบวก หลังจากกำไรปกติปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 ปี (ปี 2565-2566 จากกำไรปกติที่ปรับตัวกลับสู่ระดับปกติจากฐานสูงของบริการโควิดและ ปี 2567 จากรายได้จากคนไข้ชาวคูเวตที่ลดลง) InnovestX Research คาดว่ากำไรปกติของ BCH จะกลับมาเป็นขาขึ้นด้วยอัตราการเติบโต 15% ในปี 2568 โดยอิงกับรายได้ที่เติบโต 9% ซึ่งเป็นตัวเลขอนุรักษ์นิยมมากกว่าเป้าการเติบโตของรายได้ที่ BCH วางไว้ที่ 10-15% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญคือ:

 

1.การดำเนินงานที่เติบโตเพิ่มขึ้นที่โรงพยาบาลที่มีอยู่เดิม ผ่านการอัปเกรดโรงพยาบาล 1 แห่ง ใน 1Q68 (โรงพยาบาลการุญเวช ปทุมธานี เป็น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปทุมธานี เพื่อรองรับผู้ป่วย SC และผู้ป่วยที่จ่ายเงินเองมากขึ้น) รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการใหม่ เช่น การฉายรังสี และบริการทันตกรรมเคลื่อนที่ และการเติบโตของบริการผู้ป่วยต่างชาติ (14% ของรายได้) โดยมุ่งเน้นที่ผู้ป่วยจากเมียนมาและมัลดีฟส์ หลังจากที่ BCH ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับโรงพยาบาลท้องถิ่นเพื่อส่งต่อผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลของบริษัท

 

2.การดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นที่โรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง ประเมินว่าโรงพยาบาลเหล่านี้จะมีผลขาดทุนลดลงมาอยู่ที่ 100 ล้านบาท ในปี 2568 ดีขึ้นจากขาดทุนราว 290 ล้านบาท ในปี 2566 และ  200 ล้านบาท ในปี 2567 โดยการดำเนินงานจะถึงจุดคุ้มทุนที่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ และ ขาดทุนลดลงที่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ และ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี

 

ในปี 2568 คาดว่ากำไรปกติของกลุ่มการแพทย์จะเติบโตเฉลี่ย 6% โดย BCH จะเติบโตโดดเด่นสุดที่ 15%YoY ในขณะที่ RJH จะมีแนวโน้มกำไรแย่ที่สุด โดยประเมินได้ว่ากำไรปกติจะลดลง 5%YoY เพราะได้รับแรงกดดันจากโรงพยาบาลใหม่ที่เปิดในเดือนตุลาคม 2567

 

พัฒนาการเชิงบวกจากบริการ SC ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการจ่ายเงินของประกันสังคมทำให้ตลาดมีความกังวลต่อโรงพยาบาลที่ให้บริการผู้ป่วยประกันสังคม (SC) ซึ่งรวมถึง BCH

 

อย่างไรก็ตาม เห็นพัฒนาการเชิงบวก สำหรับการรักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW>2) ในปี 2568 สำนักงานประกันสังคมได้ประกาศในจดหมายอย่างเป็นทางการว่าจะการันตีอัตราการจ่ายที่ 12,000 บาทต่อ AdjRW มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 (1H68) หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาทบทวนอีกครั้ง และสำนักงานประกันสังคมระบุว่าจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อคงอัตราการจ่ายไว้ที่ 12,000 บาท/AdjRW ตลอดทั้งปี 2568 ซึ่ง InnovestX Research มองว่าเป็นการแสดงถึงเจตนารมณ์ที่จะการันตีการจ่ายเงิน และมองว่าจะช่วยให้คุณภาพกำไรของ BCH ปรับตัวดีขึ้น

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น BCH ปรับลง 1.91% สู่ 15.40 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 2.15% สู่ 1,189.55 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:

InnovestX Research มองว่าเห็นโอกาสในการเข้าลงทุนสะสมหุ้น BCH เนื่องจากเชื่อว่าประเด็นการฟื้นตัวของกำไรจะทำให้ BCH เป็นหุ้นที่น่าสนใจของตลาด ในขณะที่ valuation ปัจจุบันยังไม่แพง ที่ PE 22.5 เท่า ใกล้กับระดับ -2SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต (21.4 เท่า) BCH เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นกลุ่มการแพทย์ ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อ้างอิงวิธี DCF อยู่ที่ 20 บาทต่อหุ้น โดยอิงกับWACC ที่ 7.1% และการเติบโตระยะยาวที่ 3%

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การปรับอัตราการเบิกจ่ายสำหรับโครงการประกันสังคม จำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการชะลอตัวลง และภาระต้นทุนที่โรงพยาบาลใหม่ ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือ ความปลอดภัยของผู้ป่วย (S) ซึ่ง BCH ได้นำเอาระบบบริหารคุณภาพต่างๆ มาใช้สำหรับกระบวนการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

 

BCH – โอกาสลงทุนจากการฟื้นตัวของกำไร

https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/high-conviction/highconviction-bch-20250307

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising