BCGF (Biotechnology Corporation Growth Future) บริษัท SPAC สัญชาติไทย ระดมทุน 100 ล้านดอลลาร์ ยื่นไฟลิ่ง S-1 กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา (US SEC) เพื่อเข้าสู่ตลาดทุน Nasdaq เล็งธุรกิจเป้าหมายเพื่อควบรวมกิจการด้าน Biotechnology ที่มีศักยภาพสูงเป็นหลัก ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการรายสำคัญในเวทีโลก
ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้ง BCGF เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งบริษัท BCGF Acquisition Corp. (BCGF) โดยมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในรูปแบบ SPAC (Special Purpose Acquisition Companies) เป็นบริษัทสัญชาติไทยที่ต้องการยกระดับเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับสูง ก้าวข้ามจากอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมพร้อมก้าวสู่เวทีโลก
โดย BCGF มีเป้าหมายควบรวมกิจการกับกลุ่มธุรกิจด้านวัสดุชีวภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ วัสดุทางการแพทย์ ซึ่งเป็นธุรกิจแห่งอนาคตที่สร้างผลกระทบในวงกว้างแก่โลกและมนุษยชาติ มีขนาดกิจการระดับกลางรายเดียว หรือมากกว่าหนึ่งกิจการ มูลค่ากิจการรวมประมาณ 300-400 ล้านดอลลาร์ หรือ 10,000 ล้านบาทขึ้นไป และหากหลายรายมูลค่าต่อรายมากกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป โดยที่บริษัทต้องเป็นเจ้าของเทคโนโลยีระดับสูง ธุรกิจมีความพร้อมตามเกณฑ์ในการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา เป็นธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่สามารถเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรม Bio Circular Green (BCG)
ทั้งนี้ BCGF ได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq Global Exchange เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ภายใต้สัญลักษณ์ BCGFU โดยจะเสนอขายต่อนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก จำนวน 8,700,000 หน่วย ในมูลค่า 10.00 ดอลลาร์ต่อหน่วย ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้ หากสามารถระดมทุนได้ครบทั้งหมด 87 ล้านดอลลาร์ BCGF จะพิจารณาเสนอขายหุ้นเพิ่มเติม (Greenshoe Option) อีกภายในกรอบ 15% หรือจำนวน 1,305,000 หน่วย รวมเป็นจำนวนทั้งหมด 10,050,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 100,050,000 ล้านดอลลาร์ หรือมูลค่าประมาณ 3,550 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มซื้อขายในไตรมาส 4/65
“จากสถานการณ์โควิด รวมถึงปัญหาสภาพแวดล้อม ภัยธรรมชาติ และการขาดแคลนทรัพยากร ผมคาดการณ์ว่าแนวโน้มต้นทุนการทำการเกษตร และสร้างผลผลิตต่างๆ จะมีแนวโน้มที่สูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนผลผลิตอย่างมาก ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากร ด้วยการสร้างสารสำคัญต่างๆ ที่นำมาใช้กับอาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค ของใช้ เครื่องสำอาง บรรจุภัณฑ์ พลาสติกชีวภาพ ผ่านการกระบวนการชีวภาพเชิงอุตสาหกรรม (Industrial Biotechnology) ทำให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง ซึ่งในขณะนี้มีความต้องการ และแรงขับเคลื่อนอย่างมหาศาลสำหรับภาคอุตสาหกรรม เพื่อนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ให้เกิดการใช้ได้จริงในปริมาณที่เพียงพอ และมีต้นทุนที่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเรามีแนวทางที่จะสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีในระดับนานาชาติ” ปฏิมากล่าว
ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BCGF กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ของ BCGF คือการสร้างระบบนิเวศระยะยาวทางด้านอุตสาหกรรม Biotechnology ระดับโลก เพื่อให้ยกระดับสู่ World Class Facility Equipment, Standardization & International Market เพื่อผลักดันงานวิจัยที่น่าสนใจ ทรัพยากร กระบวนการเทคโนโลยีการผลิต ให้มีความพร้อมด้านเครื่องมือและงบประมาณ โดยมีทีมงานนานาชาติชาติร่วมทำงานเป็นทีมเดียวกัน เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับนานาชาติออกสู่ตลาดโลก ด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว เกิดความคล่องตัวมากที่สุด
ดังนั้น ด้านเงินทุนจึงต้องทำให้เกิดความคล่องตัวมากที่สุด และมีระบบกิจการที่สามารถยกระดับด้านบัญชีในการเข้าสู่ PCAOB Audit System ของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และมีระบบควบคุมภายในองค์กร และความลึกของเทคโนโลยี (Deep Tech)
ทั้งนี้ หากเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่บริษัทมองไว้ จะทำให้อุตสาหกรรมเชิง Deep Tech มีที่ยืนในระดับโลก และสร้างการเติบโตได้ด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP