เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) รายงานกำไรสุทธิ 3Q67 อยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6%QoQ และ 10%YoY) สูงกว่า INVX คาด 5% และสูงกว่า Consensus คาด 9% หลักๆ เกิดจากกำไรจากเครื่องมือการเงินและเงินลงทุน
โดยรายการที่สำคัญใน 3Q67 มีดังนี้
- คุณภาพสินทรัพย์: NPL เพิ่มขึ้น 4.9% หรือ 4.86 พันล้านบาท QoQ Credit Cost ลดลง 30 bps QoQ (ลดลง 10 bps YoY) สู่ 1.22% ใน 3Q67 ตามคาด LLR Coverage ลดลงมาอยู่ที่ 267% จาก 269% ใน 2Q67 InnovestX Research ยังคงประมาณการ Credit Cost ไว้ที่ 1.25% ในปี 2567 และ 1.1% (ลดลง 15 bps) ในปี 2568
- การเติบโตของสินเชื่อลดลง 3%QoQ, ลดลง 3.1%YoY และลดลง 1.25%YTD ปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 ลดลงจาก 3% สู่ 2%
- NIM ดีกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 5 bps QoQ (ลดลง 7 bps YoY) ใน 3Q67 อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น 11 bps QoQ ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 7 bps QoQ ซึ่งคาดว่า NIM จะหดตัวลง 10 bps QoQ ใน 4Q67 และ 10 bps ในปี 2568 เนื่องจากคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลง 50 bps ใน 4Q67 และ 50 bps ในปี 2568
- Non-NII เพิ่มขึ้น 20%QoQ และ 48%YoY ใน 3Q67 หลักๆ เกิดจากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินและเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 1%QoQ (เพิ่มขึ้น 2%YoY)
- อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้เพิ่มขึ้น 357 bps QoQ และ 256 bps YoY สู่ 47.73% สูงกว่าคาด OPEX เพิ่มขึ้น 14%QoQ (เพิ่มขึ้น 14%YoY) หลักๆ เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายทางการตลาด โดยกำไร 9M67 คิดเป็น 77% ของประมาณการกำไรเต็มปี
กระทบอย่างไร:
หลังจากรายงานผลประกอบการ 3Q67 ราคาหุ้น BBL ปรับลง 0.32% อยู่ที่ 155.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.24% อยู่ที่ 1,498.68 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2567-2568:
InnovestX Research คาดว่ากำไร 4Q67 จะลดลง QoQ (NIM หดตัวลง และ OPEX เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล) แต่จะเพิ่มขึ้น YoY (ECL ลดลง) และคาดว่ากำไรปี 2568 จะเพิ่มขึ้น 5% ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโต 3% NIM ที่หดตัวลง 10 bps Credit Cost ที่ลดลง 15 bps non-NII ที่เพิ่มขึ้น 3% และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ BBL และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 180 บาทต่อหุ้น (อิงกับ PBV ปี 2568 ที่ 0.58 เท่า) เนื่องจาก Valuation ไม่แพงในแง่ PBV เทียบกับ ROE และความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว, การขยายสินเชื่อได้ช้ากว่าคาด เนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัวและการแข่งขันสูง และความเสี่ยงด้าน ESG จากความปลอดภัยทางไซเบอร์และการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct)
ภาพ: ศวิตา พูลเสถียร / THE STANDARD