บรรยากาศการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรกวันนี้ (16 กันยายน) ของ บมจ.บลูบิค หรือ BBIK ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดี โดยราคาเปิดการซื้อขายที่ 36.75 บาท เพิ่มขึ้น 18.75 บาท จากราคา IPO ที่ 18 บาท หรือคิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 104.16% และช่วงเปิดการซื้อขายได้ปรับเพิ่มขึ้นไปแตะราคาสูงสุดที่ 38.50 บาท
ทั้งนี้ BBIK เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,800 ล้านบาท
BBIK และบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาธุรกิจ สร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่องค์กร แบ่งการให้บริการได้ 5 ประเภท ได้แก่
- การให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ
- การบริหารโครงการเชิงยุทธศาสตร์
- การพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี
- การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลชั้นสูงด้วยปัญญาประดิษฐ์
- การจัดหาและบริหารบุคคลากรชั่วคราวด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
กลุ่มลูกค้าหลักคือ กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 บริษัทได้ร่วมกับบริษัทในเครือ บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) จัดตั้ง บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ พัฒนา ดูแลรักษาระบบและแอปพลิเคชันของบริษัทในเครือ OR รวมถึงการหารายได้โดยการใช้ประโยชน์ของข้อมูล เพื่อขยายผลนำข้อมูลที่เป็นทรัพยากรขององค์กรไปใช้ต่อยอดทางธุรกิจ
BBIK มีทุนชำระแล้ว 50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 75 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 25 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 12.5 ล้านหุ้น ผู้ลงทุนสถาบัน 6.25 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท 3.75 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 2.5 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 8-10 กันยายน 2564 ในราคาหุ้นละ 18 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 450 ล้านบาท
การกำหนดราคาเสนอขาย IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนสถาบัน (Book Building) ซึ่งกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 18 บาทต่อหุ้น มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 37.49 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 3/2563-ไตรมาส 2/2564) ซึ่งเท่ากับ 48.02 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.48 บาทต่อหุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนว่าจ้างบุคลากรและเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับบุคลากรเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล พัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานภายในองค์กร ขยายพื้นที่สำนักงาน ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
BBIK มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มอารยะการกุล ถือหุ้น 27.25% บริษัท บลูบิค กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 25% และกลุ่มเจียมสกุลทิพย์ ถือหุ้น 15.27% กลุ่มบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองต่างๆ ตามกฎหมาย
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP