วันนี้ (20 กันยายน) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดอ่างทอง โดยกล่าวถึงความประทับใจที่ได้พบกับครอบครัวปริศนานันทกุล หรือที่รู้จักกันในนาม บ้านใหญ่ ของจังหวัดอ่างทอง โดยชี้ว่านี่คือตัวอย่างของการเมืองคุณภาพที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
อนุทินกล่าวว่า โมเดลการมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ยกจังหวัด ทำให้พรรคสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีอุปสรรคใด ๆ ทั้งยังเป็นบทเรียนและประสบการณ์ที่ดีที่ได้รับจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ซึ่งนำไปสู่การขยายฐานเสียงในจังหวัดอื่น ๆ
เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่พรรคภูมิใจไทยมีทั้งนายก อบจ. รัฐมนตรี และ สส. โดยยืนยันว่าเป้าหมายสูงสุดคือการรับใช้ประชาชนและตอบแทนบ้านเมือง
ส่วนคำถามที่ว่าพรรคจะขยายฐานเสียงไปยังจังหวัดสุพรรณบุรีหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า “เราอย่ามองเป็นจังหวัดๆ ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เดี๋ยวพี่น้องประชาชนก็จะตัดสินใจอนาคตให้กับพวกเราเอง”
ด้านสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะบิดาของภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเชื่อมั่นในตัวอนุทิน โดยระบุว่าการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเปิดโอกาสให้สามารถสร้างผลงานได้มากขึ้น
สมศักดิ์ยังกล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจต่าง ๆ ของพรรคภูมิใจไทยที่กำลังจะทยอยประกาศใช้ ซึ่งเชื่อว่าจะโดนใจประชาชน โดยเฉพาะนโยบายที่เคยใช้หาเสียงอย่าง โซลาร์รูฟท็อป และ จักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหากทำได้จริงจะส่งผลดีต่อผลการเลือกตั้งในครั้งหน้าอย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงการฝากฝังภราดร บุตรชาย ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อนุทินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้กล่าวแทรกขึ้นอย่างอารมณ์ดีว่า “ฝากเกิดสิ ไม่ใช่ฝากฝัง”
สมศักดิ์กล่าวเสริมว่า นายกรัฐมนตรีมีสายตาที่แหลมคมกว่าตนที่เป็นพ่อ เพราะมองเห็นถึงขีดความสามารถและความรู้ของลูกชายที่พร้อมจะเข้ามาช่วยงานชาติบ้านเมืองได้ จึงตั้งให้มาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพื่อให้อยู่ใกล้ตัว ก่อนที่ภายหลังการสัมภาษณ์ สมศักดิ์จะยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณอนุทิน ซึ่งอนุทินก็ยกมือไหว้ตอบเช่นกัน