ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในรายการ Morning Wealth ของ THE STANDARD WEALTH ว่า ช่วงที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่า และสถานการณ์เงินไหลเข้ามาจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ผลการเลือกตั้งที่ค่อนข้างชัดเจนว่าไบเดนชนะ ปัจจัยความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน และปัจจัยอื่นๆ ทั่วโลก
ดังนั้นเรามองว่าเทรนด์เงินบาทค่อนข้างผันผวนและมีความผันผวนในสองด้าน ไม่ว่าจะเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่าเร็ว จะส่งผลให้ผู้ส่งออกดูแลตัวเองลำบาก จึงทำให้ ธปท. ยังติดตามค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดและดำเนินการอยู่หลายด้าน โดยการดูแลจะมีปัจจัยพิจารณาหลายด้าน เช่น เงินบาทผันผวนแรงไปหรือไม่ การเคลื่อนไหวสอดคล้องกับเพื่อนบ้านและคู่แข่งไหม ฯลฯ ต้องนำมาพิจารณาร่วมกัน
อย่างไรตาม ทาง ธปท. ออก 3 มาตรการที่ ธปท. ออกมาแล้ว ได้แก่
- เปิดให้คนไทยฝากสกุลเงินตราต่างประเทศ (FCD) ได้เสรี
- การปรับกฎเกณฑ์และกระบวนการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศให้นักลงทุนรายย่อยออกไปได้ง่ายขึ้น ได้แก่
- เพิ่มวงเงินลงทุนให้นักลงทุนรายย่อยลงทุนโดยตรงได้เป็น 5 ล้านดอลลาร์ สหรัฐต่อปี จากเดิม 200,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี และไม่จำกัดวงเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ลงทุนผ่านตัวกลางในประเทศ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)
- ยกเลิกการจำกัดวงเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศสำหรับนักลงทุนภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
- เปิดให้นำหลักทรัพย์ต่างประเทศมาซื้อขายในไทยโดยไม่จำกัดวงเงิน เช่น กองทุนรวมดัชนี (ETF) ที่อ้างอิงหลักทรัพย์ต่างประเทศได้
- การลงทะเบียนแสดงตัวตนเพื่อซื้อขายตราสารหนี้ เพื่อให้ ธปท. มีข้อมูลเพื่อติดตามพฤติกรรมของนักลงทุนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีข้อมูลที่ช่วยให้ ธปท. ออกนโยบายได้ตรงจุดและทันการณ์ โดยต่างประเทศมีแนวทางการดูแลที่แตกต่างกัน
ดังนั้น 3 มาตรการที่ออกมาถือว่าเต็มแพ็กเกจแล้ว และต้องค่อยๆ นำออกมาใช้ รวมถึงพิจารณาถึงมาตรการอื่นๆ ที่อาจออกมาเพิ่มเติมว่าต้องทำอะไรในจุดไหน หรืออย่างข้อ 3 ที่ให้แสดงตัวตนในการซื้อขายตราสารหนี้จะช่วยให้ ธปท. มีข้อมูลพฤติกรรมที่อาจทำให้ค่าเงินบาทไม่มีประสิทธิภาพ
“เราจะได้ไม่สกัดกั้นคนมาลงทุน เพราะเห็นความดีงามของประเทศเรา แต่เราไม่ค่อยต้อนรับคนที่เข้ามาเก็งกำไรมากกว่า ส่วนมาตรการตอนนี้มีแพ็กเกจใหญ่ที่จะทยอยออกมา ต้องรอดูสถานการณ์ว่าความต้องการยาแรงมาถึงหรือยัง ซึ่งยาแรงมีผลข้างเคียงต้องดูเช่นกัน”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า