วานนี้ (7 มิถุนายน) ณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) รายงานต่อผู้ว่าฯ กทม. กรณีที่ ศตท.กทม. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสำหรับศูนย์กีฬา จำนวน 5 โครงการ พบว่ามีประเด็นข้อบกพร่องและมีมูลที่ส่อการทุจริต ซึ่งอาจผิดกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้ว) จึงรวบรวมข้อมูลเสนอให้ปลัดกรุงเทพมหานครพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการทางวินัย และส่งดำเนินคดีอาญาต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม. สั่งการให้ ศตท.กทม. ร่วมกับสำนักงานตรวจสอบภายในของ กทม. ขยายผลการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายทั้งหมดทันที รวม 14 โครงการ พร้อมสั่งการให้ชะลอโครงการที่อยู่ระหว่างการตรวจรับและส่งมอบเพื่อรอการตรวจสอบของ ศตท.กทม. ต่อไป ขณะเดียวกัน ศตท.กทม. พร้อมเดินหน้าเชิงรุกตรวจสอบต่อข้อสงสัยในโครงการประชาสัมพันธ์มหานครแห่งกีฬา และโครงการอื่นๆ อีกด้วย
ปรับการดูแลหน่วยงานเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ
ด้าน พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัด กทม. มีคำสั่งกรุงเทพมหานคร ที่ 1704 /2567 ปรับปรุงคำสั่งมอบหมาย และมอบหมายให้ณัฐพงศ์เป็นผู้รับผิดชอบสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เพิ่มเติมอีกหน่วยงานหนึ่ง เนื่องจากณัฐพงศ์เป็นผู้รับผิดชอบดูแลศูนย์ ศตท.กทม. เพื่อให้สามารถดำเนินการตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไม่ถึง 2 ปี ข้าราชการทุจริตออกไปแล้ว 29 ราย
สำหรับสถิติการดำเนินการของ ศตท.กทม. ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2565 มีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 781 เรื่อง ในจำนวนนี้มีมูลทุจริต 56 เรื่อง ดำเนินการถึงขั้นสอบสวนทางวินัย 44 เรื่อง และมีการปลดออกและไล่ออกจากราชการ รวม 29 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณา 12 เรื่อง ส่งต่อให้สำนักงาน ป.ป.ช. หรือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จำนวน 5 เรื่อง