วานนี้ (26 กุมภาพันธ์) ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครพัฒนาชุมชน ตามโครงการจ้างอาสาสมัครพัฒนาชุมชนด้านเทคโนโลยี (อสท.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อให้อาสาสมัครพัฒนาชุมชน (ด้านเทคโนโลยี) ได้รับทราบแนวทาง ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตลอดจนแลกเปลี่ยน เรียนรู้ประสบการณ์และทัศนคติระหว่างกัน
ศานนท์กล่าวว่า การมี อสท. คือการเติมส่วนที่ขาดเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัลให้ชุมชน และถ้ามีโอกาสจากภาคเอกชนหรือภาคส่วนต่างๆ จะทำให้ชุมชนมีโอกาสเพิ่มมากขึ้น อาสาสมัครด้านเทคโนโลยีเป็นการนำอำนาจหรือสิ่งที่เป็นของชุมชนอยู่แล้วกลับมาสู่ชุมชน ทำให้เทคโนโลยีเป็นเรื่องใกล้ตัว
ปัจจุบันมีเรื่องเศรษฐกิจออนไลน์ที่หากใครเข้าถึงเทคโนโลยีก็ได้ประโยชน์ แต่คนที่ไม่มีความรู้ก็เสียประโยชน์ ซึ่งถ้ารวมทั้งชุมชนให้มีความรู้และเข้มแข็งเรื่องเทคโนโลยีก็จะได้เป็นประโยชน์มากขึ้น ขณะนี้มีแพลตฟอร์ม 2-3 แห่งที่พร้อมจะนำเสนอและโฆษณาผลิตภัณฑ์ของชุมชนให้ ก็จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพสามารถเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น บางครั้งพอพูดถึงเรื่องของชุมชนอาจไม่น่าสนใจ แต่จริงๆ มีหลายอย่างที่น่าสนใจ อัตลักษณ์ของชุมชนสามารถพูดได้ อย่างเขตลาดกระบังมีตลาดเก่าหัวตะเข้ เขตราชเทวีมีชุมชนบ้านครัวที่คุ้นเคยเรื่องราวของ จิม ทอมป์สัน
ศานนท์กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องแรกที่ อสท. ต้องทำก่อนคือเรื่องข้อมูล คนที่เป็นเจ้าของข้อมูลก็คือชุมชนจริงๆ หน่วยงานต่างๆ ของ กทม. มีข้อมูลชุมชนอยู่แล้ว แต่อาจจะกระจายกันอยู่ เช่น สำนักอนามัย สำนักพัฒนาสังคม สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง เป็นต้น การนำข้อมูลมารวมไว้ในส่วนกลางเป็นการอัปเดตข้อมูลด้วย เช่น ผังเมืองเป็นอย่างไร, ผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเปราะบาง คนพิการกี่คน เป็นต้น นอกจากเรื่องข้อมูลชุมชนแล้ว อสท. ก็จะทำเรื่องสวัสดิการ คุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และ Digital Literacy ซึ่ง กทม. โดยสำนักงานเขตและหน่วยงานต่างๆ จะร่วมมือเต็มที่ ปัญหาในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่เป็นปัญหาซ้ำหรือคล้ายกัน เชื่อว่าหากมี 1 ชุมชนทำได้ดีแล้วจะสามารถขยายไปในชุมชนต่างๆ ที่มีอยู่มากกว่า 2,100 ชุมชนได้เร็วขึ้น
ศานนท์กล่าวด้วยว่า นอกจากการจัดสรรบุคลากรในการดำเนินงานช่วยแก้ไขปัญหาให้ชุมชนแล้ว กรุงเทพมหานครได้จัดสรรงบประมาณซึ่งเป็นอีกกลไกในการแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนด้วย ซึ่งจัดสรรให้ชุมชนละ 2 แสนบาท สามารถดำเนินการได้ในเดือนหน้า (มีนาคม 2566) โดยการใช้งบประมาณดังกล่าวแต่ละชุมชนจะมีคณะกรรมการพิจารณาและกลั่นกรองเรื่องที่เสนอขอใช้งบประมาณก่อน เพื่อให้สามารถใช้งบประมาณในการดำเนินกิจกรรมหรือแก้ไขปัญหาได้ตรงกับความต้องการของชุมชนมากที่สุด เบื้องต้นจะจัดสรรให้กับชุมชนที่มีการจดทะเบียนถูกต้องก่อน ส่วนชุมชนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนอาจด้วยไม่เข้าเงื่อนไขบางอย่าง กทม. จะหารือแนวทางดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ในความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นชุมชนจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียน ถ้ามีปัญหา กทม. ก็ต้องดูแลและให้ความช่วยเหลือ ที่ผ่านมามีการแก้ไขข้อบัญญัติบางข้อเพื่อให้สามารถดูแลช่วยเหลือประชาชนได้มากขึ้น ในอนาคตจะพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนชุมชนตามขนาด เช่น ชุมชนขนาดใหญ่ ชุมชนขนาดกลาง ชุมชนขนาดเล็ก ชุมชนไม่จดทะเบียน ชุมชนเล็กพิเศษ เพื่อให้แต่ละชุมชนได้รับงบประมาณที่เหมาะสมกับชุมชน ซึ่งจะต้องหารือรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ กทม. โดยสำนักพัฒนาสังคมจัดทำโครงการจ้าง อสท. เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี และได้ผ่านการคัดเลือก ชุมชนละ 1 คน ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ ทักษะ ส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และประชาชนทั่วไปในพื้นที่ได้มีความรู้เท่าทันเทคโนโลยี สามารถเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการต่างๆ พัฒนาช่องทางการเข้าถึงการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ในพื้นที่สู่ตลาดออนไลน์ ตลอดจนการจัดทำข้อมูลแผนที่และแผนผังชุมชนให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศแต่งตั้ง อสท. แล้วจำนวน 494 ราย และจัดฝึกอบรมให้ความรู้ก่อนการปฏิบัติงานจริง