สภา กทม. หารือร่วมเทศบาลนนทบุรี-ปากเกร็ด เร่งแก้ปัญหาจราจร-โครงสร้างพื้นฐาน

วันนี้ (23 กันยายน)สภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) นำโดย วิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร และ ฉัตรชัย หมอดี รองประธานสภาฯ ได้ร่วมประชุมกับคณะเทศบาลนครนนทบุรีและเทศบาลนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นและหาแนวทางแก้ไขปัญหาระบบการจราจรและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่รอยต่อ

ในการประชุม สนั่น โทวะดี หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนและออกแบบ 1 สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้นำเสนอแนวทางการดำเนินงานด้านการจราจรของ กทม. ภายใต้นโยบาย 9 ดี ของผู้ว่าฯ กทม. โดยเน้น 5 หัวข้อหลัก ได้แก่

1. นโยบายผู้ว่าฯ กทม. 9 ดี: ซึ่งทำให้สถิติอุบัติเหตุลดลงในช่วงปี 2567-2568

2. ยกระดับความปลอดภัยทางข้าม: ปรับปรุงทางม้าลาย เช่น ทำเนินลาดและเพิ่มจุดพักคอย

3. นโยบายเร่งด่วน 5 พฤติกรรมเสี่ยง: ติดตั้งกล้องวงจรปิดตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร

4. มาตรการลดความเร็ว: กำหนดอัตราความเร็วในพื้นที่ กทม. ไม่เกิน 60 กม./ชม. ในเขตชั้นในไม่เกิน 50 กม./ชม. และในเขตชุมชนไม่เกิน 30-45 กม./ชม.

5. ความปลอดภัยผู้ใช้รถจักรยานยนต์: จัดช่องจราจรสำหรับรถจักรยานยนต์ (MC Lane) บนสะพานข้ามแยก เพิ่มจุดกลับรถและช่องจอดรอสัญญาณไฟ

ตัวแทนจากเทศบาลนครนนทบุรีได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนทางม้าลายในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งอาจทำให้การจราจรติดขัด และเสนอให้สร้างสะพานลอยหรืออุโมงค์ทางลอดแทน อย่างไรก็ตาม ทาง สจส. ชี้แจงว่า กทม. กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การใช้สะพานลอยจึงไม่สะดวกกับผู้สูงอายุ อีกทั้งการสร้างอุโมงค์ทางลอดยังสิ้นเปลืองงบประมาณมาก

ด้านสมาชิกสภา กทม. ได้กล่าวเสริมว่า สะพานลอยบางแห่งถูกทิ้งร้างและบดบังทัศนียภาพ การใช้ทางม้าลายจะเป็นประโยชน์มากกว่า แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ แต่ในพื้นที่หน้าโรงเรียน สะพานลอยยังคงมีความสำคัญเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน

สมาชิกสภาเทศบาลนครปากเกร็ดได้ให้ข้อแนะนำว่า หากสะพานลอยที่มีอยู่เดิมสามารถติดตั้งลิฟต์หรือบันไดเลื่อนได้ จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้มาก และได้สอบถามถึงปัญหาผิวถนนชำรุดบนถนนแจ้งวัฒนะที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง สจส. ได้ชี้แจงว่า กทม. กำลังกำชับผู้รับเหมาให้เร่งดำเนินการให้เรียบร้อย

นอกจากนี้ คณะเทศบาลนครปากเกร็ดยังได้เน้นย้ำเรื่องปัญหาพื้นที่ทับซ้อนและระบบระบายน้ำ เนื่องจากเทศบาลปากเกร็ดเป็นพื้นที่รับน้ำจาก กทม. หาก กทม. มีการระบายน้ำที่มากเกินไปจะส่งผลกระทบในวงกว้างได้

ทั้งนี้ สจส. ได้รับข้อปัญหาและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายไปพิจารณาเพื่อนำไปศึกษาเชิงลึกต่อไป