วานนี้ (1 ธันวาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โควิดว่า ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น กรุงเทพมหานคร (กทม.) จึงได้ปรับการรับมือในบางส่วน
ปัจจุบันเรื่องของยาและวัคซีนยังมีเพียงพอ ซึ่ง กทม. ยังให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอยู่ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ประชาชนสามารถไปรับการฉีดวัคซีนได้ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของ กทม. ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง ซึ่งเปิดให้บริการในวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 08.00-16.00 น.
นอกจากนี้ ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) ทั้ง 69 แห่ง ได้เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิดช่วงบ่ายในวันพุธและวันศุกร์ด้วย ซึ่งเดิมให้บริการเฉพาะบ่ายวันศุกร์ อีกทั้งในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต มีศูนย์บริการสาธารณสุข 6 แห่งที่เปิดให้บริการฉีดวัคซีนในวันเสาร์ เวลา 08.00-16.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
ประกอบด้วย กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง ศูนย์บริการสาธารณสุข 38 กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก ศูนย์บริการสาธารณสุข 43 กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ศูนย์บริการสาธารณสุข 21 กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ ศูนย์บริการสาธารณสุข 51 กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ ศูนย์บริการสาธารณสุข 29 และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ ศูนย์บริการสาธารณสุข 40
รวมถึงมีการให้บริการตรวจรักษาแบบ ‘เจอ แจก จบ’ ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-12.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ และมีศูนย์บริการสาธารณสุข 16 แห่ง เปิดให้บริการวันเสาร์ เวลา 08.00-12.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 7, 8, 9, 11, 18, 24, 33, 38, 41, 42, 43, 45, 47, 48, 60 และ 63
ชัชชาติกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาสำนักการแพทย์พบผู้เสียชีวิตจากโควิดจำนวน 2 ราย ซึ่งทั้ง 2 รายไม่ได้ฉีดวัคซีน ดังนั้นการฉีดวัคซีนยังเป็นสิ่งสำคัญ ใครที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด ควรต้องมาฉีด และคนที่ฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายเกิน 4 เดือนแล้ว ควรมาฉีดเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเพิ่มเติม