วานนี้ (19 ธันวาคม) ตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00 น. ทีม THE STANDARD ลงพื้นที่ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หัวลำโพง คลองหลอด ถนนราชดำเนิน และพญาไท เพื่อสำรวจกลุ่มคนไร้บ้านที่อาศัยกระจายอยู่ตามอาคาร ริมถนน ริมคลอง ซอกบันได และบนทางเดินเท้า
ในค่ำคืนที่กรุงเทพมหานครมีสภาพอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิลดต่ำลงเหลือเพียง 18 องศาเซลเซียส เหล่าคนไร้บ้านที่ไร้ที่พักรั้วรอบขอบชิด จำเป็นต้องใช้ทั้งเสื้อผ้าและเศษผ้าที่พอมีมาห่มคลุมตามร่างกายให้อบอุ่น หลายคนยังพอโชคดีที่มีเสื้อกันหนาวตัวเก่า ผ้าห่มที่คนใจดีบริจาคไว้ แต่หลายคนยังมีเพียงกระดาษลัง หรือกระดาษหนังสือพิมพ์
จากข้อมูลจากการลงพื้นที่ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร ในปี 2565 พบว่าปัจจุบันมีคนไร้บ้านจำนวน 1,868 คน เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่พบคนไร้บ้านจำนวน 1,033 คน เป็นผลสืบเนื่องมาจากสถานการณ์โควิดที่ทำให้เกิดภาวะตกงาน ส่งผลให้คนไม่มีงานทำและรายได้ จึงไม่มีเงินจ่ายค่าที่พัก และถูกผลักดันออกมาในที่สุด จนเกิดปรากฏการณ์คนไร้บ้านหน้าใหม่เพิ่มขึ้น ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่เราจะพบเจอคนไร้บ้านในที่ต่างๆ มากขึ้นไปด้วย
ในช่วงที่อากาศหนาวแบบนี้ ทางมูลนิธิกระจกเงาที่เป็นสื่อกลางของกลุ่มคนไร้บ้าน ได้เปิดรับบริจาคอุปกรณ์กันหนาวเหลือใช้ ทั้งเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม ถุงเท้า หมวกไหมพรม ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ เพื่อส่งต่อให้ผู้ที่ต้องการทั้งพี่น้องชาติพันธุ์บนดอยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพื้นที่อื่นๆ
โดยสามารถติดต่อบริจาคได้ที่มูลนิธิกระจกเงา ซึ่งจะทำหน้าที่กระจายของบริจาคต่อไป
