วันนี้ (11 มิถุนายน) ศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการประชุมเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา คาดว่าฤดูฝนปีนี้ของประเทศไทยเริ่มต้นวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา และจะไปสิ้นสุดประมาณกลางเดือนตุลาคม ซึ่งในส่วนของการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนั้น กรุงเทพมหานครโดยสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตได้ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ รวม 6,464 กิโลเมตร ขุดลอกและจัดเก็บผักตบชวาในคู คลอง ลำราง ลำกระโดง รวม 1,984 คลอง ซ่อมบำรุงเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำและบ่อสูบน้ำ เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ชนิดไฟฟ้าและเครื่องยนต์ดีเซล ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในพื้นที่เฝ้าระวัง จัดเตรียมหน่วยบริการเร่งด่วน (BEST) จำนวน 108 หน่วย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 700 คน จัดเตรียมอุปกรณ์กรณ์ฉุกเฉิน อาทิ กระสอบทรายและรถเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และติดตั้งเรือผลักดันน้ำ จำนวน 29 ลำ รวมถึงหากมีฝนตกในปริมาณมาก ซึ่งอาจส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบนผิวจราจรในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจุดเสี่ยงน้ำท่วมขัง หรือจุดเฝ้าระวังน้ำท่วมขัง กรุงเทพมหานครจะจัดเจ้าหน้าที่หน่วย BEST ของสำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขตพื้นที่เร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถดำเนินการได้ ซึ่งจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังมี 14 จุดในพื้นที่ 9 เขต ส่วนจุดเฝ้าระวังน้ำท่วมขังมี 56 จุดในพื้นที่ 26 เขต
สำหรับเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือปัญหาขยะในคู คลอง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงได้มอบหมายสำนักการระบายน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเก็บขยะในคลองอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้จัดเก็บขยะที่อยู่บนตลิ่งซึ่งอาจไหลลงคลองเมื่อฝนตก หรืออาจร่วงหล่นลงคลองเนื่องจากลม พร้อมทั้งให้ 50 สำนักงานเขต รณรงค์ประชาสัมพันธ์กิจกรรม ‘นัดทิ้ง นัดเก็บ ขยะชิ้นใหญ่’ ให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง เพื่อสร้างจิตสำนึกในการคัดแยกขยะก่อนทิ้งและเพื่อป้องกันการทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง ซึ่งขยะดังกล่าวจะกีดขวางทางระบายน้ำ และส่งผลต่อประสิทธิภาพของระบบระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ
สำหรับกิจกรรม ‘นัดทิ้ง นัดเก็บ ขยะชิ้นใหญ่’ นั้น กรุงเทพมหานครได้ให้บริการเก็บขนขยะชิ้นใหญ่และสิ่งของเหลือใช้แก่ประชาชนทุกสัปดาห์ในวันเสาร์และอาทิตย์ โดยทั้ง 50 เขตจะหมุนเวียนให้บริการในชุมชนหรือหมู่บ้านที่มีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนคัดแยกขยะก่อนทิ้ง อันจะเป็นการส่งเสริมการลดปริมาณมูลฝอยอย่างยั่งยืนและเป็นการร่วมกันแก้ปัญหาขยะอุดตันทางระบายน้ำจากการทิ้งขยะลงสู่แม่น้ำลำคลอง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกด้วย ซึ่งสำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล สำนักสิ่งแวดล้อม ได้ศึกษาและสำรวจปริมาณขยะชิ้นใหญ่ ภายหลังดำเนินกิจกรรมการนัดเวลาทิ้ง นัดเวลาเก็บขยะชิ้นใหญ่ของสำนักงานเขตต่างๆ พบว่า ปริมาณขยะชิ้นใหญ่จาก 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึงเมษายน 2563 มีปริมาณขยะที่เก็บได้ทั้งสิ้นจำนวน 2,785.10 ตัน สามารถนำขยะกลับมาใช้ได้จำนวน 761.79 ตัน คิดเป็นร้อยละ 27.35 โดยขยะชิ้นใหญ่ประเภทเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในสภาพดีและสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ กรุงเทพมหานครจะนำมารวบรวมที่ศูนย์การเรียนรู้ของเขตต่างๆ เพื่อทำการซ่อมแซมแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ จักรยาน หรือนำไปไปดัดแปลงใช้ประโยชน์อื่นๆ เช่น กระถางต้นไม้นำไปทำคอกหมักปุ๋ย ยางรถยนต์นำไปทำกระถางต้นไม้ เป็นต้น ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งในการลดการสร้างขยะในกรุงเทพฯ ด้วยแนวคิด 3R (Reduce, Reuse และ Recycle) คือ ลดใช้ นำกลับมาใช้ซ้ำ และการนำกลับมาใช้ใหม่
ทั้งนี้ 50 สำนักงานเขตได้จัดทำตารางนัดหมายจัดเก็บขยะชิ้นใหญ่และแจ้งให้ประชาชนรับทราบในช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่จะเข้าดำเนินการจะแจ้งให้ชาวชุมชนได้รับทราบล่วงหน้าทุกครั้งผ่านเสียงตามสายในชุมชน สถานีวิทยุชุมชน การเดินรณรงค์และการปิดประกาศให้รับทราบอีกด้วย กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญชวนประชาชนนำขยะชิ้นใหญ่ที่ไม่ใช้แล้วมาตั้งวาง ณ จุดนัดทิ้ง ตามวัน เวลาที่สำนักงานเขตกำหนด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่สะอาดและปลอดภัยอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยลดปัญหาขยะอุดตันกีดขวางทางระบายน้ำอีกด้วย
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารกิจกรรม ‘นัดทิ้ง นัดเก็บ ขยะชิ้นใหญ่’ ได้หลายช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ สำนักงานประชาสัมพันธ์ http://prbangkok.com, https://facebook.com/prbangkok/, https://twitter.com/pr_bangkok, http://bkknowconnect.com รวมถึง แอปพลิเคชัน BKK Connect ซึ่งเป็นแอปฯ ที่กรุงเทพมหานครพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการบอกกล่าวเรื่องราวกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับกรุงเทพฯ และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ประชาชนได้รับทราบ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า