วันนี้ (19 กันยายน) เอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร รายงานว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยามีประกาศเรื่องดีเปรสชัน ฉบับที่ 8 (200/2567) คาดการณ์ในช่วงวันที่ 19-23 กันยายน 2567 มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
กทม. ได้วางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากน้ำฝน น้ำหลาก และน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งมีศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยประชุมหารืออย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานข้อมูลร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ, กรมชลประทาน, กรมอุตุนิยมวิทยา, กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เอกวรัญญูกล่าวว่า การเตรียมความพร้อมรับมือของ กทม. ได้จัดเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังตามจุดอ่อนหรือจุดเสี่ยงน้ำท่วม รวมทั้งจัดเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเตรียมพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน หากเกิดเหตุกรณีฉุกเฉินสามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการแก้ไขและช่วยเหลือได้ในทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังได้จัดเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำ และตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ และคลองพระโขนง อยู่เป็นประจำ
ทั้งนี้ในพื้นที่ กทม. มีแนวป้องกันน้ำท่วมความยาวประมาณ 87.93 กิโลเมตร (กม.) ประกอบด้วยแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรของ กทม. ความยาวประมาณ 79.63 กม. ซึ่งมีระดับความสูงของคันกั้นน้ำอยู่ที่ระดับ +2.80 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ถึง +3.50 ม.รทก. สามารถรองรับปริมาณน้ำเหนือหลากที่ไหลผ่าน กทม. ได้ที่ปริมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนแนวป้องกันตนเองของหน่วยงานราชการอื่นและเอกชนมีความยาวประมาณ 8.30 กม. เช่น แนวป้องกันน้ำท่วมของกรมชลประทาน, แนวป้องกันน้ำท่วมของกองทัพเรือ, แนวป้องกันน้ำท่วมของธนาคารแห่งประเทศไทย, แนวป้องกันน้ำท่วมของศาสนสถานหรือศาลเจ้า ท่าเทียบเรือขนส่งสินค้า อู่จอดเรือ ร้านค้า สถานประกอบการร้านอาหารริมน้ำ อาคารโกดังสินค้า เป็นต้น บางแห่งมีระดับแนวคันกั้นน้ำต่ำและไม่มีความมั่นคงแข็งแรง มีการรั่วซึมหรือแนวฟันหลอ
กทม. ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการเรียงกระสอบทรายเสริมความสูงของแนวคันกั้นน้ำ อุดจุดรั่วซึม เพื่อให้สามารถป้องกันน้ำเหนือหลาก น้ำทะเลหนุนสูง ได้อย่างปลอดภัยและจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง
สำหรับชุมชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมต้องติดตามสถานการณ์น้ำเหนือเวลาน้ำขึ้นเต็มที่ในแต่ละวันอย่างใกล้ชิด บางชุมชนอาจจะได้รับผลกระทบ เรือวิ่งผ่านไป-มาด้วยความเร็ว ทำให้แรงคลื่นกระทบบ้าน ซึ่ง กทม. ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกรมเจ้าท่าช่วยตรวจสอบ กำชับ และใช้มาตรการเรื่องการเดินเรือ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับบ้านเรือนของประชาชน
เอกวรัญญูระบุว่า ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงบริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดตามสถานการณ์น้ำรวมถึงแจ้งเหตุเดือดร้อนและขอรับความช่วยเหลือจาก กทม. ได้ที่เว็บไซต์ http://dds.bangkok.go.th/ หรือ www.prbangkok.com, เฟซบุ๊ก: กรุงเทพมหานคร รวมถึงการแจ้งจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมบนถนนสายหลัก และรับแจ้งเหตุน้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม. โทร.1555 หรือศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โทร. 0 2248 5115 หรือ Traffy Fondue