ความคืบหน้ากรณีที่กรมราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัว เชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผู้ต้องขังคดีความผิดฐานปล้นทรัพย์ ความผิดต่อเสรีภาพ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งก่อเหตุหลบหนีออกจากสถานคุมขัง โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 ส่งตัวเข้าคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวาง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เรือนจำความมั่นคงสูงของประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา
วันนี้ (10 มิถุนายน) ยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง เปิดเผยถึงความเป็นอยู่ของเชาวลิตว่า สำหรับวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8-9 มิถุนายน) เชาวลิตอยู่ในห้องกักโรคโควิด โดยไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่มีความกังวลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย รับประทานอาหารครบทุกมื้อ เรื่องเวรยามในการมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด จะมีเวรดูภาพจากกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ยุทธนากล่าวถึงหลักการจัดเวรยามเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในการเฝ้าดูแลและสังเกตพฤติกรรมของเชาวลิตว่า เจ้าหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปพบหรือดูแลเชาวลิต จะใช้ลักษณะเป็นคู่บัดดี้ (Buddy) เพราะต้องคำนึงถึงลักษณะเฉพาะตัวของผู้ต้องขัง ไม่ว่าจะเป็นทักษะการหว่านล้อม การโน้มน้าว และการเสนอเงื่อนไข
โดยถ้ามีเจ้าหน้าที่ 2 คน ความเป็นไปได้ที่จะถูกหว่านล้อมทั้งคู่จะลดน้อยลง หรือเป็นไปได้ยาก รวมถึงจะมีการสลับสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เป็นระยะ เพื่อป้องกันความคุ้นเคย ไม่ต้องการให้เป็นเจ้าหน้าที่หน้าเดิมๆ เจอกันบ่อยๆ เพราะอาจก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงได้
และประการสำคัญคือ แม้เจ้าหน้าที่ผู้คุมของเรือนจำกลางบางขวางจะค่อนข้างมีความเข้มงวดในการตรวจขันดูแลผู้ต้องขังให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ตนก็ไม่ละเลยในการปรับแผนการทำงาน ประเมินสถานการณ์ในอนาคต พร้อมเน้นย้ำเสมอว่า ขอให้เจ้าหน้าที่มีความตื่นตัว อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ต้องขัง หรืออย่าทำในสิ่งที่เกินขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่เด็ดขาด ต้องธำรงศักดิ์ศรีและวินัยของตัวเอง
ยุทธนากล่าวต่อว่า สำหรับการขังเดี่ยวในห้องควบคุมมั่นคงภายในแดน 2 จะเป็นการขังเดี่ยวโดยที่ผู้ต้องขังจะอยู่ภายในห้องดังกล่าวทั้ง 24 ชั่วโมง ไม่ได้ลงมาด้านล่างอาคารเพื่อร่วมกิจกรรมต่างๆ กับผู้ต้องขังอื่นภายในแดน ส่วนเรื่องพื้นที่หรือบรรยากาศในห้องจะมีขนาดเล็กแต่ไม่ถึงกับแคบมาก ไม่มีพัดลมติดผนัง แต่มีพัดลมดูดอากาศคอยระบายอากาศอยู่ และมีส้วมซึมสำหรับอาบน้ำและชำระล้าง