วันนี้ (14 มิถุนายน) แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจเยี่ยมการนับคะแนนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับอำเภอ สาย ค. ที่โรงเรียนประชาภิบาล เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ภายหลังได้รับคำร้องเรียนถึงความผิดพลาดในการนับคะแนนในรอบเลือกไขว้ สาย ค. กลุ่มที่ 9, 11, 15, 17 และ 19 โดยมีผู้สมัครมาร่วมสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลคะแนนสาย ค. เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 พบว่า มีบัตรดี 80 คะแนน บัตรเสีย 3 คะแนน ซึ่งหายไป 1 คะแนน เพราะสาย ค. เขตบางเขน มี 1 กลุ่ม มีผู้เข้ารอบ 1 คน และอีก 4 กลุ่ม มีผู้เข้ารอบกลุ่มละ 5 คน จึงต้องมีบัตรลงคะแนนทั้งหมด 84 ใบ
จากการนับคะแนนใหม่พบว่า สุวณา ปิยะพิสุทธิ์ ผู้สมัครสาย ค. กลุ่มที่ 11 ได้รับคะแนนทั้งสิ้น 7 คะแนน จากเดิม 6 คะแนน ขณะที่กลุ่ม 19 พบว่า เดชา ตุลาธาร ได้รับ 4 คะแนน จากเดิม 3 คะแนน และ สิริรัชช์กร อริยธนันกร ได้ 4 คะแนน จากเดิม 5 คะแนน รวมมีบัตร 81 ใบ และบัตรเสีย 3 ใบ มีบัตรลงคะแนนครบ 84 ใบ
แสวงให้สัมภาษณ์ภายหลังการนับคะแนนใหม่ของ สว. ระดับอำเภอ เขตบางเขน ว่า กกต. ได้พิจารณาคำร้องคัดค้าน เรื่อง การดำเนินการในการเลือกเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ร้องทั้งหมด 11 สำนวน ได้พิจารณาครบทั้งหมดแล้ว มีเพียงที่เดียวที่ กกต. สั่งให้นับคะแนนใหม่ ด้วยเหตุจำนวนบัตรและจำนวนคะแนนไม่ตรงกัน ซึ่งหายไป 1 คะแนน
แสวงกล่าวว่า หลังจากการนับใหม่ กลุ่มที่ 11 ได้เพิ่มมา 1 คะแนน ซึ่งผลคะแนนก็ยังเป็นผู้เข้าอันดับคนเดิม ไม่ได้มีผลกระทบแต่อย่างใด เพียงแต่เราต้องการให้ตรวจสอบความชัดเจนและโปร่งใส จึงให้มีการนับคะแนนใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากบทเรียนครั้งนี้จะต้องมีการกำชับอะไรในการเลือกระดับจังหวัดหรือไม่ แสวงกล่าวว่า ก็ได้กำชับมาทุกชั้น เพียงแต่เกิดการคลาดเคลื่อน เนื่องจากในวันเลือกอาจมีกิจกรรมอื่นตั้งแต่ช่วงเช้า จึงทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนในการรับฟังและขานคะแนน
ส่วนหากมีปัญหาอาจทำให้ผู้สมัครไปฟ้องร้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ได้หรือไม่นั้น แสวงกล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้สมัคร แต่จากที่ตรวจสอบเป็นข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงาน ไม่มีเจตนาทุจริตหรือทำให้การเลือกตั้งเสียหาย
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ตนจะไปดูการเตรียมการของ กทม. ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ และ กกต. ได้เชิญชวนผู้สื่อข่าวและประชาชนเข้ามาสังเกตการณ์ ซึ่งทาง กทม. ยินดีจะจัดพื้นที่ให้เพื่อสังเกตการณ์ได้อย่างใกล้ชิด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีข้อมูลเรื่องการฮั้วหรือทุจริตหรือไม่ แสวงกล่าวว่า แต่ก่อนเรามีเครื่องมือตามมาตรา 33 และมาตรา 77 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 แต่ปัจจุบันเหลือมาตรา 77 อย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ต้องมาตรวจสอบว่ามีการรับจ้างลงคะแนนหรือทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดหรือไม่ และเข้ากับองค์ประกอบของกฎหมายหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า มีผู้สมัครที่ผ่านเข้ารอบระดับจังหวัดไปรอระดับประเทศแล้ว แสวงกล่าวว่า น่าจะเป็นเรื่องของการวิเคราะห์ ตนก็วิเคราะห์ได้ว่าใครจะได้หรือไม่ได้ เหมือนกับฟุตบอล เพียงแต่ว่ามันผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเมื่อดูตาม 2-3 โพยก็ไม่ใช่พวกเดียวกัน เหมือนต่างคนต่างมา หรือเป็นคนกลุ่มเดียวกันทั้งหมด เป็นการวิเคราะห์ ก็ต้องรวบรวมข้อมูลและสืบทางลับ
ส่วนข้อมูลบัตรประชาชนของผู้สมัคร สว. ถูกเผยแพร่ไปกว่า 20,000 คน แสวงกล่าวว่า ได้ทำหนังสือตอบสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ว่าเรามีมาตรการแก้ไขเยียวยาอย่างไร ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่เข้ามาถึงการครอบครองของสำนักงาน กกต. แต่ถ้าดูตามข้อมูลก็มีการหลุดออกไป ส่วนจะหลุดจากขั้นตอนหรือหน่วยงานใด ขอตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ได้แก้ไขในวันที่เกิดเหตุไปแล้ว
